“ผู้นำเข้าอียู” ชี้สินค้าไทยภาพลักษณ์ดีขึ้นหลังปลดใบเหลือง

นายบ็อบ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการ ซีพี ฟู้ด สหราชอาณาจักร ผู้ก่อตั้ง "ซีฟู้ดทาสก์ฟอร์ซ"

นายบ็อบ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการ ซีพี ฟู้ด สหราชอาณาจักร ผู้ก่อตั้ง “ซีฟู้ดทาสก์ฟอร์ซ” ที่เข้าร่วมประชุมผู้นำเข้าสินค้าประมงไทยในทวีปยุโรป โดยมีพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยงานจัดขึ้นที่โรงแรมอมิโก ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยมเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา แสดงความเชื่อมั่นว่าหลังจากสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศปลดใบเหลืองประมงไทยแล้ว สินค้าประมงไทยจะมีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นและจะช่วยให้ราคาและปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

นายมิลเลอร์ ระบุว่า ไม่มีข้อสงสัยใดๆเลยว่าราคาและปริมาณการส่งออกสินค้าของไทยไปยังสหภาพยุโรปนั้นจะมีเพิ่มขึ้นหลังการปลดใบเหลืองประมงไทยในครั้งนี้ ตนนอกจากจะเป็นตัวแทนซีพีแล้ว ยังเป็นตัวแทนของกลุ่มซีฟู้ดทาสก์ฟอร์ซ ที่เป็นการรวมตัวกันขององค์กรการค้าจำนวน 36 แห่งจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป การปลดใบเหลืองประมงไทยนั้นมีผลในแง่บวก เนื่องจากภาพลักษณ์ของไทยนั้นจะถูกยกระดับขึ้นมากในวงการการค้าโลก และไทยเองก็เป็นผู้ส่งออกสินค้าและนั่นจะสร้างความแตกต่างอย่างมาก ขณะที่ในส่วนของราคานั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับราคาแต่ที่แน่นอนก็คือสินค้าไทยจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นที่มีปัญหาในเรื่องนี้อยู่ด้วย

นายมิลเลอร์กล่าวด้วยว่า หลังการปลดใบเหลืองประมงไทยในครั้งนี้แล้ว จะนับเป็นการเปิดโอกาสทางการค้าใหม่สำหรับไทย โดยตนยังไม่เห็นเหตุผลใดๆที่จะทำให้ปริมาณการค้าระหว่างไทยกับอียูจะไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ในระดับนานาชาติทั้งในอเมริกาและในยุโรปเอง สิ่งนี้เป็นสัญญาณบวกที่สำคัญมากๆและบริษัทต่างๆก็จะใช้สัญญาณเหล่านี้ในการประเมินเพื่อกำหนดนโยบายการซื้อขายในอนาคตต่อไป ซึ่งนั่นแน่นอนว่าจะทำให้ปริมาณการส่งออกสินค้าประมงจากไทยเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามตนคงยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าใด เพราะสำหรับผู้ซื้อแล้วจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินการในนโยบายการซื้อขายและหากไทยจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาหลังจากนี้อีก 6 เดือน 9 เดือน หรือ 1 ปี

 


ที่มา:มติชนออนไลน์