นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกยท.ได้หารือกับกลุ่มบริษัทอาลีบาบา ผู้ประกอบการตลาดสินค้าออนไลน์รายใหญ่ของจีน เกี่ยวกับการจัดทำแพลตฟอร์มซื้อขายยางทางอิเล็กทรอนิกส์ มาแล้ว 2 ครั้ง โดยทางอาลีบาบา รับหน้าที่ออกแบบแพลตฟอร์มการซื้อขายยางในระบบออนไลน์ให้กับไทยเพื่อไว้ใช้ซื้อขายร่วมกัน อย่างไรก็ตามคาดว่าไม่เกิน 1-2 เดือน แพลตฟอร์มขายยางร่วมกันน่าจะมีความชัดเจน
ทั้งนี้ในเบื้องต้น กยท.กำหนดประเภทยางที่จะส่งขายไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์กับอาลีบาบา ทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ 1.น้ำยางข้น 2.ยางแท่ง(STR20) และยางแผ่นรมควันชั้น 3 (Rs3) โดยยางเหล่านี้จะมาจากสถาบันเกษตร หรือ สหกรณ์ที่สามารถผลิตยางและแปรรูปยางพาราได้ นอกจากนี้การซื้อขายยางออนไลน์ จะส่งผลทำให้ราคายางในประเทศปรับตัวสูงขึ้นเพราะราคายางจะถูกกำหนดโดยผู้ขายโดยตรง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
“ปัจจุบันราคายางพาราอยู่ในเกณฑ์ดี และเชื่อมั่นว่าราคายางพาราจะเพิ่มขึ้นถึงไตรมาสที่ 2 (เดือนมี.ค.-พ.ค.)เป็นอย่างน้อย เพราะต้นยางจะอยู่ในช่วงผลัดใบ โดยปัจจุบันราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 (FOB) เฉลี่ยอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกกรัม(กก.) และราคาตลาดกลางอยู่ที่ 45 บาทต่อกก. ส่วนราคาน้ำยางสดปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 39-40 บาทต่อกก. ซึ่งสาเหตุที่ราคาน้ำยางสดเพิ่มขึ้น เกิดจากโครงการต่างๆ ของรัฐบาลที่มีการหนุนการใช้ยางในประเทศ โดยเฉพาะการใช้ยางสร้างถนนพาราซอนยด์ซีเมนต์ทั่วประเทศ ของโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 กิโลเมตร เป็นต้น”
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท รองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย. ด้านอุตสาหกรรมยางและการผลิตยาง เปิดเผยว่า ช่วงปลายในเดือนม.ค.นี้ จะเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อหารือกับอาลีบาบา เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ต่างๆ ในระบบซื้อขายยางออนไลน์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามสำหรับแพลตฟอร์มซื้อขายยางอิเล็กทรอนิกส์นี้ กยท.ตั้งใจให้เป็นตลาดล่วงหน้าที่มีการส่งมอบจริง แตกต่างกับตลาดโตคอม (TOCOM) ในประเทศญี่ปุ่น และตลาดไซคอม (SICOM) ในประเทศสิงค์โปร์ ที่มีการซื้อขายล่วงหน้าแต่ไม่มีการส่งมอบจริง
“ตลาดล่วงหน้านั้นเป็นตลาดเก็งกำไรเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการกดราคาในตลาดยางทั่วโลก ดังนั้นถ้าไทยสามารถเปิดตลาดซื้อขายยางพาราได้เอง ก็น่าจะสามารถแก้ปัญหาเรื่องการกดราคาของตลาดโลกได้ นอกจากนี้การซื้อขายยางผ่านแพลตฟอร์มของอาลีบาบา จะทำให้ไทยได้กลุ่มลูกค้าจากจีนโดยตรง รวมถึงลูกค้าจากทั่วโลก ก็สามารถซื้อยางจากประเทศไทยโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มนี้ได้”