ครม.สัญจรเท 4.3 พันล้านต่ออายุมาตรการเติมเงินบัตรคนจนเฟส 2 ออกไปอีก 6 เดือน

แฟ้มภาพ

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จังหวัดลำปาง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2562 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน ว่า ครม.สัญจรมีมติเห็นชอบเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-wallet) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการปรับเปลี่ยนการเติมเงินรายเดือนวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2562 โดยจะใช้จ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายภายใต้กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก

สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ที่ได้รับการเติมเงิน 300 บาท สามารถถอนเงินสดผ่านตู้ ATM และสาขาของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ 200 บาท สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีรายได้เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ได้รับการเติมเงิน 200 บาท สามารถถอนเงินสดได้ 100 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 เดือน หรือ ก.พ.-เม.ย.62

“รัฐบาลยังโอนเงินให้เหมือนเดิมแต่จากเดิมที่เคยได้และใช้ซื้อสินค้าได้เฉพาะร้านธงฟ้าประชารัฐเปลี่ยนเป็นถอนเงินสดได้ และนำไปซื้อสินค้าร้านอื่นไม่จำกัดเฉพาะซื้อของในร้านธงฟ้าประชารัฐเท่านั้น” นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า สาเหตุที่ยังคงเหลือจำนวนเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐก็เพราะยังมีสินค้าของชุมชนที่เคยอยู่ในร้านธงฟ้าฯ 50 เปอร์เซ็นต์ เช่น ไข่ไก่ ข้าวสาร กะปิ

นายพุทธิพงษ์กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเห็นชอบขยายเวลามาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 2 ที่สิ้นสุดโครงการไปเมื่อเดือน ธ.ค. 61 ออกไปอีก 6 เดือน หรือ ม.ค.-มิ.ย.62 และอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 62 งบกลางฯ วงเงิน 4,370 ล้านบาทเพิ่มเติมเพื่อเติมเงินรายเดือนเข้ากระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับใช้ดำเนินการมาตรการขยายระยะเวลามาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายผู้เข้าร่วมโครงการ 4,145,397 ราย