6 โรงกลั่น รับลูกธพ.เร่งปรับแผนดันยูโร 5 ลดฝุ่น เตรียมขอ BOI หนุนลงทุน

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับโรงกลั่นเรื่องการปรับปรุงมาตรฐานคุณภาพน้ำมันยูโร 4 เป็นยูโร 5 ว่า กรมฯได้มีการเร่งรัดให้โรงกลั่นน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 6 ราย ประกอบด้วย จำนวน 6 โรงกลั่น ได้แก่ บมจ. ไทยออยล์, บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล, บมจ. สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง, บมจ. บางจาก คอร์ปอเรชั่น, บมจ. ไออาร์พีซี และ บมจ. เอสโซ่ (ประเทศไทย) ส่งแผนการปรับปรุงมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อปรับเปลี่ยนคุณภาพน้ำมันจากยูโร 4 มาเป็นยูโร 5 โดยมีค่ากำมะถันไม่สูงกว่า 10 ppm ทำให้จะเป็นส่วนช่วยให้อากาศสะอาดมากขึ้นได้ ซึ่งโรงกลั่นทั้ง 6 โรงพร้อมทำตามนโยบายโดยสมัครใจ โดยมีต้นทุน 35,000 ล้านบาท แต่อาจจะต้องมีการขอการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอเพิ่มเนื่องจากต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชน โดยแผนงานดังกล่าวเป็นแผนในระยะยาว ส่วนแผนระยะสั้นในการแก้ไขปัญหามลพิษคาดว่าได้มีการเตรียมมาตรการรับมือไว้แล้วร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ การผลักดันให้ใช้น้ำมันดีเซล B20 จะเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ช่วยลดมลภาวะได้มากโดยล่าสุด ในช่วงเดือนธันวาคม 2561 มีจำนวนยอดการใช้สูงถึง 5.2 ล้านลิตร เพิ่มขึ้นจาก 3.5 ล้านลิตร ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2561 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น และคาดว่าในเดือนมกราคม 2562 จะมีปริมาณการใช้งานที่ 10 ล้านลิตรตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.)และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำไปใช้มากขึ้นและจากงานวิจัยพบว่า B20 มีการปล่อยมลภาวะน้อยมากที่สุด ทั้งนี้ จะเร่งขยายการจำหน่ายในสถานนีบริการน้ำมันต่างจังหวัดให้มากขึ้น