ปิดจ็อบช็อปช่วยชาติคึกคัก ยอดขายหนังสือพุ่ง-น้ำยางขึ้น 3 บาท/กก.

ปิดจ็อบช็อปช่วยชาติ 16 ม.ค. ส.ผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย อู้ฟู่ยอดขายพุ่ง 20% ด้านเกษตรกรสวนยางรับอานิสงส์ยางแผ่นรมควันชั้น 3-น้ำยางสด ปรับขึ้นจากก่อนใช้มาตรการ กก.ละ 3 บาท ราคาน้ำยางดิบแตะ กก.ละ 40 บาท

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ขณะนี้สิ้นสุดระยะเวลาใช้มาตรการช็อปช่วยชาติ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ให้ใช้มาตราการภาษีเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ (ช็อปช่วยชาติ) เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อสินค้าเกษตรที่มีราคาตกต่ำ และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านทางหนังสือ ตลอดจนส่งเสริมให้มีการกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถนำค่าซื้อสินค้ามาหักลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่จะต้องไม่เกิน 15,000 บาท โดยเริ่มตั้งแต่ 15 ธ.ค. 2561-16 ม.ค. 2562 ซึ่งนำไปลดหย่อนภาษีได้เฉพาะของปีนั้น รวมกัน 2 ปี ไม่เกิน 15,000 บาท

สำหรับประเภทสินค้าที่อยู่ในเงื่อนไขของการช็อปช่วยชาติ ประกอบด้วย 1.สินค้าจากโครงการ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ (สินค้า OTOP) ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน 2.หนังสือ และหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-Book) ได้ทั้งหมด แต่จะไม่รวมหนังสือจำพวกนิตยสาร และหนังสือพิมพ์ และ 3.สินค้าประเภทยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยาน ที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่าย ที่ได้ซื้อวัตถุดิบจากการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้เฉพาะค่ายางล้อรถเท่านั้น ไม่รวมค่าบริการอื่น โดยการซื้อยางล้อรถจะต้องขอใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป และคูปองที่ทางกยท.ออกให้ ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 2561

ล่าสุด นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาตรการช็อปช่วยชาติส่งผลดีต่ออุตฯสิ่งพิมพ์มาก โดยเบื้องต้นจากการประเมินของสมาชิก พบว่า มียอดขายเพิ่มขึ้น 10-20% ในขณะที่ร้านค้าทั่วไปสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 10% ถือว่าเป็นมาตรการที่ทำให้อุตฯสิ่งพิมพ์ฟื้นตัวหลังจากที่ไม่มีการเติบโต หรือโตแบบทรงตัวมาโดยตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมา และเชื่อว่า หากรัฐเห็นความสำคัญและนำมาตรการช็อปช่วยชาติต่อในปี 2562 นี้ จะไม่เพียงเป็นการสนับสนุนให้คนหันมาอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาการอ่าน แต่ยังช่วยอุตสาหกรรมนี้ไว้ได้มาก

“เรากำลังรวบรวมและประเมินผลที่เป็นตัวเลขชัดเจน เช่น ซีเอ็ดบุ๊ค ทำให้เลือดเขาหยุดไหลได้เลย ร้านค้าทั่วไปก็มียอดขายกลับเข้ามาจากที่เราเคยวิกฤต”

ด้านนายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า โครงการช็อปช่วยชาติ ให้ผู้บริโภคที่ซื้อล้อยางรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2561-15 ม.ค. 2562 ระยะเวลา 1 เดือน ผู้บริโภคสามารถนำคูปองที่ซื้อไปหักลดหย่อนภาษีได้นั้น ณ วันที่ 14 ก.พ. 2562 ผู้ผลิตยางรถยนต์ขายยางล้อในโครงการนี้ที่คิดทอนกลับมาเป็นยางพาราแห้งแล้วเกือบ 3,000 ตัน แม้สหกรณ์การเกษตรจะขายยางพาราแห้งได้ไม่ถึง 1-2 หมื่นตัน ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่ต่อไปผู้ผลิตยางล้อรถยนต์จะหันมาซื้อจากสถาบันเกษตรกรมากขึ้นในอนาคต ทำให้เกษตรกรขายได้ราคาสูงขึ้น ขณะที่ผู้ผลิตซื้อยางแห้งได้ราคาต่ำลง เพราะไม่ต้องไปซื้อจากผู้ส่งออกหรือตลาดซื้อขายล่วงหน้า

รายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบราคาซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่นำไปผลิตยางล้อรถยนต์ ณ ตลาดกลางยางหาดใหญ่ จ.สงขลา วันที่ 15 ม.ค. 2562 ซื้อขาย กก.ละ 45.80 บาท ปรับขึ้นประมาณ กก.ละ 3 บาท เทียบกับราคาซื้อขายก่อนโครงการช็อปช่วยชาติ กก.ละ 42.21 บาท ณ วันที่ 14 ธ.ค. 2561 ขณะที่ราคาน้ำยางสด ณ วันที่ 15 มกราคม 2562 อยู่ที่ กก.ละ 40.00 บาท จากก่อนใช้มาตรการกก.ละ 37.00 บาท ส่วนราคาส่งออกอยู่ที่ กก.ละ 50.10 บาท จากก่อนใช้มาตรการ กก.ละ 46.70 บาท

ทั้งนี้ กยท.ให้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจัดทำยุทธศาสตร์ยางพาราไทยระยะ 20 ปี (2560-2579) เพื่อใช้ขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตรให้บรรลุผลตามเป้าหมาย 5 เรื่องคือ 1.ลดพื้นที่ปลูกยางลงจาก 23.3 ล้านไร่ ให้เหลือ 18.4 ล้านไร่ 2.เพิ่มปริมาณผลผลิตยางจาก 224 กก./ไร่/ปี เป็น 360 กก./ไร่/ปี 3.เพิ่มสัดส่วนการใช้ยางภายในประเทศจากร้อยละ13.6 ให้เป็นร้อยละ 35 4.เพิ่มมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางจาก 2.5 แสนล้านบาท เป็น 8 แสนล้านบาท และ 5.เพิ่มรายได้การทำสวนยางจาก 11,984 บาท/ไร่/ปี เป็น 19,800 บาท/ไร่/ปี คาดว่าจะเสนอ ครม.ภายใน 2 เดือนข้างหน้าได้ โดยวางกรอบการทำงานเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น 1-5 ปีแรก เน้นแก้ไขปัญหาสวนยางที่บุกรุกพื้นที่ป่า การปรับปรุงมาตรการส่งเสริมอุตฯแปรรูปยางการผลักดันการใช้ยางในหน่วยงานรัฐ เป็นต้น ส่วนระยะกลางเน้นพัฒนายางให้ได้มาตรฐาน มอก. การวิจัยและต่อยอดในเชิงพาณิชย์ เป็นต้น ส่วนระยะยาวเน้นการพัฒนาและจัดหาเทคโนโลยีที่เหมาะสมทดแทนแรงงาน การจัดตั้งศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยาง การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และการจัดตั้งหน่วยงานส่งเสริมการค้า เป็นต้น

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!