ทศพล ทังสุบุตร แจง “สิทธิบัตรสารสกัดกัญชา”

จากความกังวลของภาคประชาสังคม กรณีบริษัทต่างชาติเข้ายื่นขอจดสิทธิบัตรสารสกัดกัญชา เป็นการปิดกั้นการวิจัย ค้นคว้าประโยชน์จากกัญชาของไทย ประกอบกับกฎหมายประเทศไทยยังไม่มีการรองรับให้กัญชา ซึ่งเป็นสารเสพติดเป็นที่มาของการเรียกร้องให้ยกเลิกคำขอทั้งหมดภายใน 7 วัน นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ตอบข้อซักถามประเด็นนี้ว่า

จุดเริ่มต้นปมสิทธิบัตรกัญชา

ตอนแรกองค์กรภาคเอกชนห่วงใน 11 คำขอ ทางกรมได้เข้าไปตรวจสอบในรายละเอียดว่าอยู่ในขั้นตอนไหน อย่างไร พบว่า มีอีก 2 คำขอ รวมเป็นทั้งหมด 13 คำขอ ซึ่งขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการรับขึ้นทะเบียนสิทธิบัตรใด โดยในจำนวนนี้มี 2 คำขอที่ตรวจสอบพบว่าไม่มีการดำเนินการ คำขอจึงได้ถูกจำหน่ายไป (ละทิ้งไป) จึงเหลือ11 คำขอเท่านั้น

สังคมจี้ให้ยกเลิกคำขอทันที

ภาคประชาสังคมต้องการให้ยกเลิกการยื่นจดทันที ขณะนี้กรมใช้มาตรา 30 พ.ร.บ.สิทธิบัตร ดำเนินการปฏิเสธการขอจดไปแล้ว 3 คำขอจาก 11 คำขอ เหลือ 7 คำขอ ซึ่งหลังจากประกาศโฆษณาขณะนี้รอทางผู้ยื่นคำขอชี้แจงมา ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ หากมาชี้แจงแล้วเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หากผู้ยื่นคำขอไม่พอใจกับการตัดสินสามารถอุทธรณ์ และหากผลออกมาไม่น่าพอใจสามารถดำเนินการฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้ ซึ่งจะเป็นขั้นสุดท้าย สำหรับ 3 คำขอ แบ่งเป็น 2 คำขอละทิ้งก่อนการประกาศโฆษณา และอีก 1 คำขอ ละทิ้งหลังประกาศโฆษณามีอีก 1 คำขอที่ยื่นเข้ามาเมื่อปี 2561 ล่าสุด อยู่ระหว่างในขั้นตอนการพิจารณาตรวจสอบการประดิษฐ์ ในคำขอนี้ยังไม่มีผลใด ๆ เป็นเพียงเข้ายื่นขอจดทะเบียนซึ่งสามารถทำได้ เพราะอย่างไรจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนของการตรวจสอบตามระบบ และข้อกฎหมายต่อไป

7 คำขอที่ต้องตรวจสอบ

7 คำขอ ยังไม่ได้ยื่นขอตรวจสอบการประดิษฐ์ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการโฆษณาเปิดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาคัดค้าน โดยแบ่งเป็นคำขอจดสิทธิบัตรสารสกัดจากกัญชา 1 คำขอ และเป็นองค์ประกอบที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบ 6 คำขอ ซึ่งกลุ่มนี้มีภาคประชาชน ขอให้ใช้อำนาจอธิบดีตามมาตรา 30 สั่งปฏิเสธคำขอ เพราะขัดกับมาตรา 9 (1) ตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตรที่กำหนดว่า สารสกัดจากธรรมชาติ ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ แต่ปัจจุบันยังไม่ใช้มาตรา 30 ยังมีขั้นตอนตามกฎหมายที่ต้องดำเนินการอีกหลายขั้นตอนก่อนจะปฏิเสธคำขอได้

สำหรับ 7 คำขอนั้น แบ่งเป็นมี 1 คำขอที่เป็นสารสกัดจากกัญชา และอีก 6 คำขอที่เป็นองค์ประกอบสารสกัดจากกัญชาเป็นส่วนผสม อย่างไรก็ตาม สำหรับคำขอที่ไม่อยู่ในข่ายในการรับจดทะเบียน (เช่น เป็นสารสกัดพืช) ได้แจ้งไปยังผู้ยื่นและชี้แจงว่า จะดำเนินการ

อย่างไรต่อหรือไม่ ส่วนคำขออื่น ๆ อยู่ในระหว่างการพิจารณา ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ แต่ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนกระบวนการความคืบหน้าเป็นอย่างไร กรมก็พร้อมจะดำเนินการแจ้งให้สังคมได้รับรู้ต่อไป

ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงในเรื่องนี้สั่งการให้กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับภาคประชาสังคม พิจารณาหาทางออกร่วมกันว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ขัดกับกฎหมายไทย และความตกลงระหว่างประเทศ กรมไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมหาทางออกร่วมกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!