เศรษฐกิจในประเทศ

ลุ้นปธ.สมาพันธ์ SMEs ใหม่ แก้ปมเข้าถึงแหล่งเงินทุน

ลุ้นเลือกตั้งประธานสมาพันธ์ SMEs มี.ค.นี้ แทน “ณพพงศ์” ลาออกลงการเมือง หวังสานต่อเครือข่ายปรับเงื่อนไขช่วยรายย่อย

นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจ เลขาธิการและรักษาการประธานสมาพันธ์ SMEs ไทย เปิดเผยว่า วันที่ 1 มี.ค. 2562 จะมีการเลือกตั้งประธานสมาพันธ์คนใหม่ แทนนายณพพงศ์ ธีระวร ซึ่งลาออกเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 2561 ที่ผ่านมา จากนั้นจะเร่งวางโครงสร้างคณะกรรมการทั่วประเทศทั้งหมดภายใน 1 เดือน และในช่วงเดือน พ.ค. จะเริ่มอบรมผู้บริหารระดับสูงและประชุมเพื่อเชื่อมโยงแผนงานนโยบายระหว่างรัฐบาลและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

โดยในปี 2562 สมาพันธ์ที่ยังต้องสานต่องานร่วมกับภาคีเครือข่ายสมาชิกกว่า 50 กลุ่ม อาทิ กลุ่มชมรม สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน สมาคมวิชาชีพ สมาคม SMEs ภูมิภาค ตลอดจนประสานงานที่ได้ลงนามความร่วมมือ MOU กับแต่ละหน่วยงานต่าง ๆ ไว้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้สมาพันธ์เป็นศูนย์กลางประสานงานกับหน่วยงานรัฐ สภาวิชาชีพ สถาบันการเงิน ตลอดจนทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อกำหนดมาตรการสนับสนุน SMEs ให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้

“ที่ผ่านมา มาตรการที่ออกมาช่วยเหลือ SMEs ถือว่าตอบโจทย์และยังสามารถพัฒนาให้ SMEs ได้ประสบความสำเร็จสัดส่วนถึง 30% แต่ก็ยังคงเงื่อนไขและข้อจำกัดหลายด้าน เช่นแหล่งเงินทุน ที่แม้จะเห็นผลกลับมาทันทีนั้น แต่ก็ยังคงมีอีกหลายรายที่ไม่สามารถเข้าได้ กรณีที่ไปลงนาม MOU กับ 4 สมาคมด้านบัญชีและภาษี ถือเป็นความจำเป็น เป็นสิ่งที่ SMEs ต้องมีความรู้ด้านนี้ เป้าหมายของเราคือ การดูแลคนตัวเล็กให้เป็นมืออาชีพ นำไปสู่การปรับเปลี่ยน หรือ trans-form ตัวเอง”

นางสาวโชนรังสีกล่าวว่า จากการหารือกับทางกระทรวงอุตสาหกรรมถึงมาตรการส่งเสริมเอสเอ็มอีในปีนี้ ยังเน้นเรื่องแหล่งเงินทุนเป็นมาตรการหลัก แต่จะปรับเงื่อนไขในมาตรการใหม่เพิ่ม เพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนมากที่สุด เช่น ให้กลุ่มแท็กซี่ กลุ่มทำเกษตรที่เป็น young smart farmer ซึ่งขณะนี้มี 2-3 จังหวัดเริ่มอบรมไปแล้ว สเต็ปถัดไปช่วยเรื่องแหล่งเงินทุน โดยยังปรับเงื่อนไข เช่น ไม่ต้องให้มีบุคคลค้ำประกัน การกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และปล่อยกู้รายที่ไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล

“ยอมรับว่า การทำงานในปีที่ผ่านมานั้นอุปสรรคของ SMEs แต่ทางรอดในวันนี้สิ่งสำคัญคือ ต้องเปิดความคิดใหม่ mindset มองโลกในแง่ที่มีความหวังจริง ๆ ว่า เราทุกคนมีโอกาสใช้เครือข่ายที่มีการยกระดับความสัมพันธ์ให้สามารถพึ่งพากันให้ได้มากที่สุด และอีกเรื่องที่สำคัญคือ เจออุปสรรคเรื่องสงครามการค้าเศรษฐกิจโลกผันผวน และกำลังซบเซา เป็นความเสี่ยง แต่ประเทศไทยเองช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการลงทุนรายใหญ่จากอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve เป็นข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะ SMEs มีโอกาสเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนผลิตชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้กับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่”

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 ก.พ. 2562 ทางสมาพันธ์ และภาคีสมาคมจะจัดเวที “Voice SMEs : ความหวัง SMEs ไทยในมือรัฐบาลในอนาคต” ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารือกับพรรคการเมืองที่คาดว่าจะไปบริหารประเทศได้รับฟัง ถึงประเด็นแนวทางช่วยเอสเอ็มอีในอนาคต

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!