“ทูน่าไทย” รับอานิสงส์ ปลดใบเหลือง “ไอยูยู”

ภายหลังจากที่สหภาพยุโรปได้ปลดใบเหลือง (IUU) ไทยส่งผลให้การนำเข้าวัถตุดิบของไทย ซึ่งมีสัดส่วน 95% มีเสถียรภาพมากขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่ออุตสาหกรรมทูน่าไทย

ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมทูน่าไทย กล่าวว่า สมาคมคาดการณ์แนวโน้มการส่งออกสินค้าทูน่าไทยปี 2562 จะเติบโตมากกว่า 10% จากมูลค่าการส่งออกรวม 1.1 แสนล้านบาท จากการส่งออกทูน่ารูปแบบแปรรูปกระป๋อง ซาร์ดีน แซลมอน ทูน่าลอยน์ และอาหารสัตว์เลี้ยงแมวกระป๋อง โดยเฉพาะอาหารสัตว์เลี้ยง (แมว) ที่ทำจากปลาซึ่งมีราคาค่อนข้างสูง ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก สมาคมจึงคาดการณ์ว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่อาหารสัตว์เลี้ยงจะเป็นสินค้าอีกหนึ่งตัวหลักที่มูลค่าสูงไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

“แม้จะปลดใบเหลือง สมาคมจะทำงานร่วมกับภาครัฐเรื่องประมง IUU ต่อเนื่อง และปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรม ขณะนี้ทูน่าไทยยังเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 20% และเราจะส่งเสริมซื้อสินค้าจากกองเรือ จากประมงนอกน่านน้ำและประมงพื้นบ้านให้มากขึ้น เพื่อไปทำอาหารสัตว์เลี้ยง

โดยสมาคมจะเดินหน้าร่วมกับภาครัฐและส่งเสริมการประมงนอกน่านน้ำ ขณะเดียวกันจะสนับสนุนสมาชิกและส่งเสริมการทำประมงพื้นบ้าน โดยผลักดันการจับปลาเพื่อไปทำอาหารสัตว์เลี้ยงให้มากขึ้น เพราะมองจากแนวโน้มมีราคาสูงมากกว่าหรือเทียบเท่าอาหารคน ซึ่งน่าสนใจมากว่าปีนี้จะเป็นปีแรกที่อาหารสัตว์เลี้ยงมูลค่าสูงแตะ 1 หมื่นล้านบาท จากแต่เดิมที่ค่อนข้างน้อย จากเทรนด์และคนมีกำลังซื้อ ซึ่งส่วนนี้จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากสำหรับสินค้าประมงไทย

ด้าน นายผณิศวร ชำนาญเวช ประธานคณะกรรมการธุรกิจประมงและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กล่าวว่า ปี 2562 อุตสาหกรรมประมงไทยจะเติบโตดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลไทยได้มีการจัดระเบียบเรือ และพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้า ซึ่งจะเป็นโอกาสในการเพิ่มการนำสินค้าเพื่อแปรรูปส่งออกมาก ขณะเดียวกันจะส่งผลให้สินค้าประมงของไทยได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศผู้นำเข้าและจะขยายตลาดได้มากขึ้นด้วย

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!