ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมหอการค้าไทย สนับสนุนจัดตั้งสถาบัน AiTi ขึ้นเป็นคลังข้อมูลการค้าให้กับ SMEs ในการบุกตลาด CLMV

ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมหอการค้าไทย สนับสนุนจัดตั้งสถาบัน AiTi ขึ้นเป็นคลังข้อมูลการค้าให้กับ SMEs ในการบุกตลาด CLMV หลังผลสำรวจพบว่านักลงทุนไทยยังเข้าไปน้อย

นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีแนวคิดในการจัดทำโครงการ Knowledge Tank และจัดตั้ง สถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะด้านการค้าและการลงทุน หรือ AiTi จะเป็นคลังข้อมูลด้านการค้าและการลงทุนให้กับภาคเอกชนโดยเฉพาะ SMEs ที่สนใจลงทุนในตลาดต่างประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นจะเริ่มจากกลุ่มประเทศ CLMV และในอนาคตจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดที่เห็นว่ามีโอกาสในการขยายการค้าได้ โดยทางหอการค้าไทยจะพยายามทำให้สถาบันดังกล่าว เป็นสถาบันที่มีความยั่งยืน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลให้กับภาคเอกชนได้อย่างต่อเนื่อง

ด้านนายชนินท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ให้การสนับสนุน ระบุว่า บ้านปู พร้อมที่จะสนับสนุนทั้งงบประมาณและความรู้ ความเข้าใจในการขยายตลาด ทำให้ข้อมูล ที่จะเชื่อมโยงกับสถาบันดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ลดความเสี่ยงให้กับภาคเอกชนและจะมีการพัฒนาข้อมูลอย่างต่อเนื่องให้กับภาคเอกชน โดยพร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาในการลงทุนกับ SMEs

รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และที่ปรึกษาหอการค้าไทย กล่าวถึงผลการศึกษาโอกาสและอุปสรรคในการลงทุนประกอบธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ว่าสำหรับผลการศึกษา จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบการในภาคการผลิต การค้า และภาคบริการ จำนวน 656 ตัวอย่าง พบว่าส่วนใหญ่ 44.2% มีการทำธุรกิจกับต่างประเทศแล้ว ส่วนความสนใจที่จะทำการค้าและการลงทุนกับกลุ่มประเทศ CLMV ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการทำการค้าและการลงทุน กับ CLMV เนื่องจากมองว่ายังขายในประเทศได้ดีอยู่ ต้นทุนสูงไม่คุ้มค่า และไม่รู้กฎระเบียบ รวมทั้งปัญหาสำคัญคือ ภาษาในการติดต่อสื่อสาร จึงยังไม่มีความพร้อม และยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปทำการค้าและการลงทุนในกลุ่ม CLMV

ทั้งนี้ หากต้องทำการค้าหรือลงทุนใน CLMV ผู้ประกอบการมีความจำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลข่าวสาร เพื่อใช้ในการตัดสินใจ และเตรียมความพร้อมในการเจรจา และลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ดังนั้น สิ่งที่ต้องการจากภาครัฐ ในการหาโอกาสและช่องทางการค้าของธุรกิจไปยังต่างประเทศ คือ คำปรึกษาการทำธุรกิจที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย พร้อมอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งเพิ่มแหล่งข้อมูลให้สามารถเข้าถึงและรับรู้ข่าวสารได้สะดวก

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การเติบโตของกลุ่มประเทศ CLMV ยังคงมีทิศทางที่โดดเด่นในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ที่น่าจะขยายตัวในกรอบ 5-10% ด้วยจำนวนประชากรกว่า 250 ล้านคน ที่มีทุกกลุ่มทุกระดับรายได้ตั้งแต่รายได้สูง ปานกลาง และรายได้ต่ำ ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ครบทุกกลุ่มสินค้า และยังต้องการการลงทุนอีกมาก รวมทั้งยังมีสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ไทยเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ จึงถือว่ามีความพร้อมในทุกด้านให้ไทยเข้าไปทำตลาด และเศรษฐกิจไทย ขณะนี้ มีความพร้อมขยับเข้าสู่การลงทุนในต่างประเทศแล้ว แต่ประเทศไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการเองจะต้องก้าวผ่านความไม่กล้า ไม่รู้ข้อมูล ไม่เข้าใจ และไม่ปรับตัวไปให้ได้ ซึ่งสถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน หรือ AITI (เอ-ไอ-ที-ไอ) ของหอการค้าไทย จะเข้ามาตอบโจทย์ของผู้ประกอบการ ทั้งในด้านข้อมูลที่มีความทันสมัย และข้อมูลจริงจากทั้งภาครัฐ และผู้ประกอบการ ที่เข้าไปดูได้ตลอดเวลาแบบออนไลน์