นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศเดือนมกราคม 2562 มีจำนวน 7,311 ราย เมื่อเทียบกับเดือน ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา จำนวน 4,102 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 3,209 ราย คิดเป็นสัดส่วน 78% และเมื่อเทียบกับเดือน มกราคม 2561 จำนวน 6,965 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 346 ราย คิดเป็นสัดส่วน 5% โดยธุรกิจที่มีการจั้งตั้ง 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจการก่อสร้างทั่วไป จำนวน 620 ราย คิดเป็นสัดส่วน 8% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 386 ราย คิดเป็นสัดส่วน 5% และธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า จำนวน 184 ราย คิดเป็นสัดส่วน 3%
ด้านมูลค่าทุนการจัดตั้งใหม่เดือนมกราคม 2562 จำนวน 17,693 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2561 จำนวน 38,669 ล้านบาท ลดลง 20,976 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 54% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2561 จำนวน 17,940 ล้านบาท ลดลง 247 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1%
ส่วนธุรกิจเลิกกิจการในเดือนมกราคม 2562 มีจำนวน 1,401 ราย เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2561 จำนวน 5,511 ราย ลดลง 4,110 ราย คิดเป็นสัดส่วน 75% และเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2561 จำนวน 1,350 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 51 ราย คิดเป็นสัดสาวน 4% ซึ่งธุรกิจที่เลิกกิจการ 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 150 ราย คิดเป็นสัดส่วน 11% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 75 ราย คิดเป็นสัดส่วน 5% และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 44 ราย คิดเป็นสัดส่วน 3%
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
สำหรับมูลค่าทุนเลิกธุรกิจประกอบการกิจการเดือนมกราคม 2562 จำนวน 4,462 ล้านบาท เมื่อเทียบกับธันวาคม 2561 จำนวน 19,586 ล้านบาท ลดลง 15,124 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 77% และเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2561 จำนวน 5,563 ล้านบาท ลดลง 1,101 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 20%
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มมากขึ้นเนื่องจาก การขยายตัวของการผลิต การใช้จ่ายในภาคครัวเรือน และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีนโยบายจากรัฐบาลมาสนับสนุน คือ โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และการกระตุ้นการลงทุนเขตเศรษฐกิจ EEC ซึ่งมีการจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ เพิ่มขึ้น 5% ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และระยอง ส่วนฉะเชิงเทรา 5.1% โดยธุรกิจส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเขต EEC คือ ธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า
ทั้งนี้ พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ SEC ซึ่งมีการจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มขึ้น 6% ซึ่งธุรกิจที่มีการจัดตั้งมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป รองลงคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจการขนส่งและขนถ่ายสินค้า
