นักลงทุน 2,000 คน เข้าร่วมสัมมนาใหญ่ประจำปี THAILAND INVESTMENT YEAR – What’s New? “บิ๊กตู่” เผยไทยต้องพึ่งการลงทุนช่วยพัฒนาประเทศ “สมคิด” ชี้ EEC และโครงสร้างพื้นฐานต้องไปต่อ เพราะไม่ได้ส่งผลเสียต่อประเทศ หวังเงินลงทุนหลังเลือกตั้งพุ่ง “ดวงใจ” เปิดมาตรการสำหรับกระตุ้นปีแห่งการลงทุน ลดหย่อนภาษี 50% อีก 3 ปี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี “THAILAND INVESTMENT YEAR – What’s New?” จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่าเพื่อให้ประเทศไทยพ้นกับดักรายได้ปานกลาง ไทยยังคงจำเป็นต้องพึ่งพาการลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยประเทศไทยจำเป็นต้องทำ 3 อย่าง คือ 1.ต่อยอดจากอดีต เพื่อเพิ่มมูลค่า 2.ปรับปัจจุบัน โดยโครงการก่อสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งบนบก น้ำ อากาศ วิทยาศาตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล 3.สร้างคุณค่าใหม่ ด้วยการสร้างบุคลากร SMEs และ Startup ที่ต้องปรับโมเดลธุรกิจให้ตอบสนองความต้องการของตลาด
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
“เรายังต้องการการลงทุนเพื่อมาช่วยขับเคลื่อนประเทศ เรามีพื้นที่ EEC และเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) เพื่อให้ทุกพื้นที่มีรายได้ แก้ปัญหาด้วยการพัฒนา ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ขณะที่รากฐานของประเทศเราต้องทำให้เข้มแข็ง อุตสาหกรรมที่เราเก่งก็ต้องพัฒนาและยกระดับ ปัจจุบันมี 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ในอนาคตถ้าอุตฯไหนเหมาะกับเรา เราก็จะเพิ่มและพัฒนามันให้ได้”
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซาแต่ไทยกลับมีการเคลื่อนไหวในหลายด้าน ทั้งตัวเลข GDP ที่โตสูงขึ้น มีความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศทั้ง METI ญี่ปุ่น ฮ่องกง เป็นต้น ขณะที่ไทยเองก็ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ อย่างในพื้นที่ EEC ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประมูล 5 โครงสร้างพื้นฐานใหญ่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จใจช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2562 นี้ บวกกับศักยภาพพื้นที่ของไทยที่เชื่อมสู่ CLMV และไทยกำลังจะเป็นประธานประชุมอาเซียนนั้น ส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ถือเป็นเวทีที่ไทยจะชูบทบาทให้เห็นว่าสามารถเป็นท่อต่อทั้งเชิงการเมือง เศรษฐกิจ ตลาด ซัพพลายเชนได้ และยังได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กำลังจะย้ายฐานมาที่ไทย เพราะคือดินแดนที่เติบโตสูงสุดในตอนนี้ นั่นคือ อาเซียน
“การดึงการลงทุนเข้ามาเป็นหน้าที่ของบีโอไอ จึงประกาศให้เป็นอีกปีของการลงทุน แต่บีโอไอไม่ทำแค่นั้นเขาดูแลเรื่องของการศึกษา คนชรา มีโครงการสร้างที่อยู่อาศัย โครงการที่สนับสนุนด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นมาตรการส่งเสริมการลงทุนจึงไม่ใช่แค่จูงใจ แต่ต้องมีเงื่อนไขให้มีการพัฒนาในชุมชนด้วย มันจึงจะเป็นการพัฒนาที่ครบทั้งหมด ทั้งเศรษฐกิจและสังคม เราให้คำสัญญากับนักลงทุน EEC จะอยู่แน่นอน เพราะมีกฎหมายออกมารองรับ และอยากถามว่าทุกโครงการที่เกิดขึ้นที่สร้างขึ้นในตอนนี้มีโครงการไหนที่ไม่ดีต่อคนไทยบ้าง หรือทำให้ต่างประเทศด่าไทยหรือไม่ ถ้าไม่โครงการก็ควรต้องเดินไปต่อ”
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า ล่าสุดบีโอไอมี “มาตรการสำหรับกระตุ้นปีแห่งการลงทุน” ซึ่งได้กำหนดเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ เช่น เงินลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 1,000 ล้านบาท เป็นประเภทในกลุ่มกิจการ A1-A3 ต้องอยู่นอกเขต กทม. จะได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% อีก 3 ปี ขณะเดียวกันได้มีการปรับปรุงมาตรการในอีกหลายตัวเพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับนักลงทุน