รอเลือกตั้ง! ยอดธุรกิจตั้งใหม่ก.พ.เริ่มชะลอตัว ลุ้นรัฐบาลใหม่ยื้อจดทะเบียนธุรกิจอืดถึงกลางปี

รอเลือกตั้ง! ยอดธุรกิจตั้งใหม่ก.พ.เริ่มชะลอตัว ลุ้นรัฐบาลใหม่ยื้อจดทะเบียนธุรกิจอืดถึงกลางปี ยกเว้นพื้นที่อีอีซียังฮอต

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวน 6,563 ราย ลดลง 7,311 ราย ลดลง 748 ราย หรือลดลง 10% จากเดือนมกราคม 2562 แต่หากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มขึ้น 207 ราย หรือ เพิ่ม 3% สำหรับธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร

โดยมีมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่รวม 16,858 ล้านบาท ลดลง 83บาท หรือลดลง 5% จากเดือนมกราคมปีนี้ และหาก เทียบกุมภาพันธ์ปีก่อน ลดลง 778 ล้านบาท หรือลด 4% ซึ่งส่วนใหญ่ 74% เป็นธุรกิจจัดตั้งใหม่ที่มีทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่งผลทำให้ 2 เดือนแรกปีนี้ มีธุรกิจจัดตั้งใหม่ 13,874 ราย เพิ่มขึ้น 553 ราย หรือเพิ่ม 4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน มีมูลค่าทุนจดทะเบียน 34,551 ล้านบาท ลดลง 1,025 ล้านบาท หรือลดลง 3 %

ขณะที่ธุรกิจเลิกกิจการเดือนกุมภาพันธ์ 2562 มีจำนวน 812 ราย ลดลง 589 ราย หรือลดลง 42 %จากเดือนมกราคม 2562 แต่หากเทียบกุมภาพันธ์ 2561 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2 ราย หรือเพิ่ม 0.2 % สำหรับธุรกิจเลิกกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ โดยมีทุนรวม2,531 ล้านบาท ลดลง 1,931 ล้านบาท หรือลดลง 43% เดือนมกราคมปีนี้ และหากเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน ปรับลดลง 7,254 ล้านบาท หรือ 74% และส่วนใหญ่69% เป็นธุรกิจช่วงทุนที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้ 2 เดือนแรกปีนี้ มีธุรกิจเลิกกิจการ 2,213 ราย เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 53 ราย หรือ 2 % เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน มูลค่าทุนเลิกกิจกรรมรวมลดลง 8,355 ล้านบาท หรือลด 54 %

“หากเทียบยอดตั้งธุรกิจใหม่เฉพาะเดือนกุมภาพันธ์ พบว่ากุมภาพันธ์ปีนี้ทำสถิติตั้งสูงสุดในรอบ 10 ปี และเมื่อแยกเป็นพื้นที่พบว่าจัดตั้งธุรกิจใหม่ในพื้นที่อีอีซี ยังเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 10% สะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจในพื้นที่เศรษฐกิจเป้าหมายของรัฐบาล รวมถึงการขยายของเศรษฐกิจยังดีอยู่ ซึ่งสภาพัฒน์ยังคงตั้งเป้าหมายจีดีพีขยายตัว 3.5-4.5% ผลจากการลงทุนภาครัฐ ช่วยดึงการบริโภค และการท่องเที่ยวยังขยายตัวได้ดี ที่น่าจับตาคือการค้าระหว่างประเทศ อาจกระทบต่อการส่งออกไทย โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน และเบร็กซิท(อังกฤษแยกจากยุโรป)ยังไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามแนวโน้มการจัดตั้งบริษัทในเดือนต่อไปยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น “นายพูนพงษ์ กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม ซึ่งกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจใช้เวลา 2-3 เดือนกว่าที่จะมีการกำหนดนโยบายใหม่ที่ชัดเจน ซึ่งเอกชนอาจชะลอดูสถานการณ์หลังเลือกตั้งก่อนที่จะตัดสินใจจัดตั้งบริษัทและลงทุนใหม่ ยอดตั้งบริษัทใหม่ยังเป็นธุรกิจขนาดเล็กทุนน้อยไม่เกิน 1 ล้านบาท อาจได้รับผลกระทบหากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ล่าช้าหรือมีเหตุการณ์ที่กระทบต่อการเลือกตั้ง ดังนั้น มีโอกาสที่ยอดจัดตั้งธุรกิจใหม่อาจชะลอตัวในครึ่งปีแรก