กรมการค้าภายใน ชู “ตลาดหลวงปู่ทวด” ตัวอย่างการพัฒนาตลาดประชารัฐต้องชม

กรมการค้าภายใน ชู’ตลาดหลวงปู่ทวด’ ตัวอย่างการพัฒนาตลาดประชารัฐต้องชม ต่อยอดสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เตรียมผลักดันสินค้าโอท็อป 100 SKU เข้าร้านธงฟ้าประชารัฐ 60,000 สาขา
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นำคณะลงพื้นที่ตลาดประชารัฐต้องชมตามเส้นทางพระนครศรีอยุธยา – นครราชสีมา – สระบุรี 3 จุด คือ ตลาดน้ำหลวงปู่ทวด จ.อยุธยา ซึ่งเป็นต้องชมเกรด A (เอ), ตลาดริมทาง ศูนย์ผลไม้เขาใหญ่ และร้านธงฟ้าประชารัฐเขาใหญ่ สโตร์นิวส์ จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดที่กรมจะใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาตลาดที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะตลาดหลวงปู่ทวด เปิดให้บริการมา 3 ปี เติบโตกว่า 200% เพราะมีอัตลักษณ์ท้องถิ่น ทำให้สามารถเชื่อมโยงรายได้จากการท่องเที่ยว สร้างยอดขายปีละ 200 ล้านบาท และช่วยเหลือผู้ประกอบในท้องถิ่น 100-200 ราย
 
“กรมจะใช้ตลาดนี้เป็นต้นแบบในการพัฒนาตลาดต้องชม เพราะมีจุดแข็งทั้งการจัดโซน โลเคชั่นที่เหมาะสม และมีการรักษาความสะอาด มีการจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสม มีการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการยกเลิกการใช้โฟม และลดใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก แผนขั้นต่อต่อไปตลาดนี้จะเป็นจุดเชื่อมโยงและกระจายสินค้าโอท็อปจาก จังหวัดใกล้เคียงเข้าสู่ร้านธงฟ้าประชารัฐ ซึ่งมี 60,000 สาขา ช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ”
 
นายวิชัย กล่าวถึงแผนการดำเนินการโครงการตลาดประชารัฐต้องชมว่า ในปีนี้มีแผนจะผลักดันตลาดต้องชมเพิ่มขึ้นอีก 70 สาขา จากปัจจุบันที่มีตลาดที่กรมาส่งเสริมเป็นตลาดต้องชมประชารัฐแล้ว 230 แห่ง
 
โดยขณะอยู่ระหว่างจัดเตรียมการประกวดตลาดต้องชมระดับจังหวัด และจะคัดเลือกผู้ชนะในระดับประเทศ จากนั้นจะให้มีการจัดทำเนียบผู้ค้าที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นต้นแบบการสร้างอาชีพ และส่งเสริมประชาสัมพันธ์ตลาด ให้เป็นที่รู้จักระดับสากล เพื่อดึงดูดและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว
 
นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา และประธาน บริษัท โอท็อป อินเตอร์เทรด ประเทศไทย จำกัด และตลาดหลวงปู่ทวด กล่าวว่า ขณะนี้มีโครงการยกระดับสินค้าโอท็อปซึ่งเป็นสินค้ายอดนิยมในตลาดต้องชมฯ เพื่อนำไปจำหน่ายในร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยปีแรกตั้งเป้า 100 SKU
 
“ตลาดหลวงปู่ทวดลงทุนไป 250 ล้านบาท บนพื้นที่ 250 ไร่นับจากในปี 2553 และเข้าร่วมโครงการ ตลาดประชารัฐต้องชมมา 3 ปี ซึ่งเป็นการโปรโมทให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากขึ้น สร้างรายได้ให้คนในชุมชนที่นำสินค้ามาจำหน่ายบางครัวเรือนมีรายได้หลักล้านบาทต่อปี เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าในตลาดเฉลี่ยวันละ 3,000 คน และหากเป็นช่วงเทศกาลเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คน มียอดขายรวมปีละ 200 ล้านบาท มีพ่อค้าแม่ค้า 130 ราย ซึ่งอยู่รอดได้ 90%”
 
ทั้งนี้ ตลาดมีจุดแข็งทั้งเรื่องการคัดเลือกสินค้าคุณภาพดี ไม่ซ้ำกัน และจำหน่ายราคาเหมาะสมและมีการแบ่งโซนร้านค้าออกจากบริเวณวัดซึ่งเป็นต้นแบบสถานที่ท่องเที่ยงเชิงพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรม โดยผู้บริหารตลาดจะเข้าไปช่วยออกแบบดิสเพลย์สินค้า และที่สำคัญตลาดนี้ยังส่งเสริมการรักษาความสะอาดดูและสิ่งแวดล้อมลดใช้พลาสติก และเลิกใช้โฟมเกือบ 100%