จับตาการคัดเลือกกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ภายใต้การเปลี่ยนด้านศก.-การเมือง ขณะที่ “กลินท์ สารสิน” ยังนั่งประธานต่ออีก 1 วาระ

กลินท์ สารสิน

รายงานข่าวจากหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า หอการค้าไทยจะจัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 53 ในวันที่ 20 มีนาคม 2562 โดยการประชุมใหญ่ครั้งนี้จะจัดให้มีการคัดเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ด้วย เนื่องจากคณะกรรมการชุดปัจจุบันได้ครบวาระลงแล้ว โดย 1 วาระจะดำรงตำแหน่ง 2 ปีเมื่อครบกำหนด ก็จะทำการประชุมและคัดเลือกคณะกรรมการหอการค้าไทยชุดใหม่ แต่ทั้งนี้ สำหรับประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย แม้จะครบวาระ 2 ปี แต่ยังมีสิทธิ์ต่ออายุได้อีก 2 ปี หรืออีก 1 วาระ ดังนั้น นายกลินท์ สารสิน ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย คนที่ 24 ยังคงดำรงตำแหน่งประธานอีก 1 วาระ

แต่อย่างไรก็ดี สำหรับคณะกรรมการ รองประธาน และเลขาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย อาจจะต้องมีการพิจารณาและทำการคัดเลือกขึ้นมาใหม่ โดยการประชุมใหญ่สามัญครั้งนี้ จะมีการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่นี้ต่อไป พร้อมกันนี้ ภายหลังจากคัดเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะแถลงถึงแนวนโยบายการบริหารงานด้วย ซึ่งก็ต้องติดตามสำหรับแนวทางการทำงาน นโยบาย ของคณะกรรมการชุดใหม่นี้จะเป็นอย่างไร ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจ สังคม การเมืองที่เปลี่ยนไป

สำหรับชุดคณะกรรมการชุดเดิม มีทั้งสิ้น 25 ท่าน เบื้องต้นได้แต่งตั้งให้นายกฤษณะ วจีไกรลาศ เป็นกรรมการเหรัญญิก นายปรัชญา สมะลาภา เป็นรองประธาน นายวิโรจน์ จิรัฐติกาลโชติ เป็นรองประธาน นายชิงชัย หาญเจนลักษณ์ เป็นรองประธาน นายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล เป็นกรรมการเลขาธิการ และ นายวิชัย อัศรัสกร เป็นโฆษก เป็นต้น

ขณะที่วิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯที่ผ่านมา คือ “เป็นสถาบันหลักทางการค้าและบริการของประเทศ ที่ใช้ข้อมูล ความรู้ เครือข่าย และความร่วมมือที่เข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เติบโตได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน” และได้กำหนดพันธกิจไว้ 5 ประการ สำหรับขับเคลื่อนองค์กร เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ได้แก่ 1.เสริมความสามารถในการแข่งขันและโอกาสทางการค้าและบริการให้กับผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน ด้วยข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐานในการดำเนินธุรกิจ

2.สร้างความเชื่อมโยงและร่วมมือ ให้เกิดความเข้มแข็งของเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก 3.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมตามแนวทางประชารัฐ และธรรมาภิบาลการดำเนินธุรกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 4.ต่อยอดความรู้และประสบการณ์ สร้างสรรค์ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ 5.พัฒนาการบริหารจัดการองค์กรทั้งเครือข่าย ให้มีประสิทธิภาพและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม ดังนั้น เป็นที่น่าจับตาถึงแนวทางการทำงานของหอการค้าในปีนี้ ปัจจุบันหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทยแห่งประเทศไทย มีสมาชิกรวมทั้งประเทศประมาณ 100,000 ราย