พาณิชย์ ลงพื้นที่ สุราษฯ ติดตามการรับซื้อผลปาล์มในการผลิตไฟฟ้า พบเจอปัญหา อุปสรรคมาก

พาณิชย์ นำคณะผู้บริหารลงพื้นที่ สุราษฯ ติดตามการรับซื้อผลปาล์มในการผลิตไฟฟ้า พบเจอปัญหา อุปสรรคมาก พร้อมเร่งหาข้อสรุปก่อนนำไปหารืกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

นางสาวชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารลงพื้นที่จังหวัดสุราษฐานี เพื่อติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มตามมาตรการของรัฐบาลในการช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินปริมาณ 1.6 แสนตัน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ในวันที่ 20 มีนาคม 2562 ว่า ตนนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ รวมไปถึงผู้บริหารจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ติดตามสถานการณ์ราคาปาล์มและการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ เนื่องจากขณะนี้ราคาผลปาล์มยังคงตกต่ำ แม้รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือ ดังนั้นจึงต้องการทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

เบื้องต้น ตนจัดคณะลงพื้นที่ดูเป็น 3 สายเพื่อติดตามถึงปัญหาราคาน้ำมันปาล์ม โดยจัดให้ลงพื้นที่ติดตามการรับซื้อปาล์มน้ำมันในพื้นที่ลานเท โรงสกัด และปั้มน้ำมัน ว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคหรือไม่ เพื่อที่จัได้หาแนวทางแก้ไขและหามาตรการช่วยเหลือเพื่อผลักดันราคาปาล์มน้ำมันขึ้น เป้าหมายต้องการช่วยเหลือเกษตกร พร้อมกันนี้ จะประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย เพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ จากลงพื้นที่พบว่ายังมีปัจจัยของประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง มาเลเซียมและอินโดนีเซีย ไม่สามารถส่งออกผลผลิตไปในยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำเข้าสำคัญจึงทำให้ผลผลิตล้นตลาดส่งผลให้ราคาปาล์มทั่วโลกตกต่ำ ดังนั้นจึงส่งผลกระทบต่อราคาปาล์มภายในประเทศไทยด้วย ปัจจุบันราคาต่ำกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ ราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ 1.6 แสนตัน ไปผลิตเป็นกระแสไฟฟ้า ที่โรงไฟฟ้าบางประกง ราคารับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 3-3.20 บาท ในเปอร์เซ็นน้ำมันปาล์มที่ 18%

อีกทั้ง ส่วนใหญ่จากลงพื้นที่ยังต้งการให้เพิ่มการใช้น้ำมันปาล์มในการผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าบางปะกง จากเดิมเดือนละ 1,000 ตัน เพิ่มเป็นเดือนละ 1,500 ตัน และได้ขยายระยะเวลาการชำระเงินให้แก่โรงสกัดจากเดิมสิ้นสุดเดือนพฤษภาคม 2562 ให้ขยายไปเป็นสิ้นสุดเดือนพฤศจิกายน 2562 และให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบเพื่อไปผลิตเป็นไบโอดีเซลเพิ่ทเติม รวมทั้งส่งเสริมให้กระทรวงพลังงานผลักดันให้มีการใช้ บี 20 ในรถบิ๊กอัพ และรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพื่อดูดซับน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบ เพื่อดึงปาล์มให้เกษตรกรขายได้ราคาสูงขึ้น