สภาอุตฯ จับตาเลือกตั้งหวังรัฐบาลใหม่แก้วิกฤติค่าเงิน ส่งออก แม้ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ก.พ.พุ่งแตะ 95.6

สภาอุตฯ จับตาเลือกตั้งหวังรัฐบาลใหม่แก้วิกฤติค่าเงิน ส่งออก แม้ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ก.พ.พุ่งแตะ 95.6

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 อยู่ที่ระดับ 95.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากระดับ 93.8 ในเดือนมกราคม โดยเป็นการปรับตัวจากความเชื่อมันของนักลงทุน ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมก่อสร้าง กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยได้แรงหนุนจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ รวมทั้งกิจกรรมการหาเสียงเลือกตั้งซึ่งส่งผลดีต่อการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยเฉพาะยานยนต์ สิ่งพิมพ์ อาหาร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่งออกยังมีความกังวลต่อความผันผวนของค่าเงินบาท ทำให้กระทบต่อการวางแผนและการกำหนดราคา รวมทั้งการส่งออกที่มีแนวโน้มชะลอตัวตามภาวะของเศรษฐกิจประเทศ คู่ค้าหลัก สะท้อนจากค่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ของยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 105.4 เพิ่มขึ้นจาก 104.1 ในเดือนมกราคม เนื่องจากผู้ประกอบการคาดหวังว่าภายหลังการเลือกตั้ง และมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ จะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจมีความชัดเจน และส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2562

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ

1.เสนอให้ภาครัฐหามาตรการในเชิงรูปธรรม เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมไทยให้สามารถปรับตัวและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำหรับยุค Disruptive Technology

2.เสนอให้ภาครัฐส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงนวัตกรรมได้

3.เสนอให้ภาครัฐเร่งเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี FTA กับกลุ่มประเทศที่ไทยยังไม่มีข้อตกลงการค้าร่วมกัน อาทิ กลุ่มประเทศยูโรโซน ตะวันออกกลาง แอฟริกาและยูเรเซีย

และที่ผ่านมาเอกชนได้มีการดำเนินการร่วมกับภาครัฐอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยแบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลัก คือ การสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม การส่งเสริม SMEs และกฎหมาย ภายใต้ยุทธศาสตร์ Factory 4.0 ของกระทรวงอุตสาหกรรม


สำหรับผลงานที่โดดเด่นและเป็นประโยชน์ต่อภาคอุตสาหกรรมที่ชัดเจน ได้แก่ การยกเลิกขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4), พ.ร.บ. EEC, การลดอัตราภาษีนิติบุคคล, งบประมาณการวิจัย Spearhead เพื่อวิจัยสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, การดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐ 12 คณะ, โครงการ Digital Transformation ในภาคอุตสาหกรรม, โครงการ Talent Mobility ส่งเสริมนักวิจัยออกมาวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกับภาคอุตสาหกรรม และการส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ/จัดซื้อสินค้าสีเขียว เป็นต้น