คต. เผย การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน 2 เดือน ปี62 โต 0.9% มั่นใจ ปี62 โต 15%

กรมการค้าต่างประเทศ เผย การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ช่วง2 เดือน ปี 2562 โต 0.92% มูลค่า 291,485 ล้านบาท ชี้การค้าชายแดนมาเลเซียครองแชมป์อันดับหนึ่ง ส่วนการค้าผ่านแดนจีนตอนใต้มีมูลค่าสูงสุด จัดเต็มกิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ มั่นใจปี 62 มูลค่าการค้าชายแดน – ผ่านแดน ตามเป้า 1.6 ล้านล้านบาท โต 15%

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านชายแดนของไทย ช่วง 2 เดือน ของปี2562(ม.ค. – ก.พ.) มีมูลค่า 219,485.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.92% โดยเป็นการส่งออก มูลค่า 121,273 ล้านบาท ลดลง 1.94% และการนำเข้า มูลค่า 98,212 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.69% เกิดดุลการค้า 23,061 ล้านบาท

โดยแบ่งเป็นการค้าชายแดน มูลค่า 178,876 ล้านบาท ลดลง 1.65% เป็นการส่งออก มูลค่า 101,326 ล้านบาท ลดลง 3.63% และการนำเข้า มูลค่า 77,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.06% เกินดุลการค้ามีมูลค่า 23,777 ล้านบาท ส่วนมูลค่าการค้าผ่านแดน มูลค่า 40,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.06% เป็นการส่งออก มูลค่า 19,946 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.67% และการนำเข้า มูลค่า 20,662 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% ขาดดุลการค้า 751.82 ล้านบาท

ทั้งนี้ สถิติการค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่า การค้ามาเลเซียยังคงเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 88,674 ล้านบาท ลดลง 2.22% เป็นการส่งออก มูลค่า 42,500 ล้านบาท ลดลง 10.57% และการนำเข้า มูลค่า 46,173 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.96% ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 31,740 ล้านบาท ลดลง 11.61% เป็นการส่งออก มูลค่า 19,189 ล้านบาท ลดลง 12.46% และการนำเข้า มูลค่า 12,552 ล้านบาท ลดลง 10.27% ส่วนเมียนมา มูลค่า 31ม184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.77% เป็นการส่งออก มูลค่า 17,497 ล้านบาท ลดลง 0.21% และการนำเข้า มูลค่า 13,687 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.06% และกัมพูชา มูลค่า 27,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.10% เป็นการส่งออก 22,140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.86% และการนำเข้า 5,137 ล้านบาท ลดลง 16.73%

ส่วนสถิติการค้าผ่านแดน พบว่า การค้าจีนตอนใต้เป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 16,813 ล้านบาท เป็นการส่งออก มูลค่า 6,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.17% และการนำเข้า 10,652 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.07% รองลงมา เวียดนาม มูลค่า 12,858 ล้านบาท เป็นการส่งออก 9,762 ล้านบาม เพิ่มขึ้น 3.27% และการนำเข้า 3,096 ล้านบาท ลดลง 14.86% และสิงคโปร์ มูลค่า 10,937 ล้านบาท เป้นการส่งออก 4,023 ล้านบาท ลดลง 20.74% และการนำเข้า มูลค่า 6,914 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.84%

นายอดุลย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยสำคัญที่จะส่งพบกระทบต่อการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน คือ ค่าเงินบาทแข็งค่า ภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวน ความไม่มีเสถียรภาพของค่าเงินในภูมิภาค โดยเฉพาะประเทศเมียนมา เพราะมูลค่าเงินจ๊าดอ่อนตัว ทำให้สินค้ามีราคาแพงขึ้น การส่งออกยางพารา ไปมาเลเซีย ลดลง

อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ ประเมินว่าการค้าชายแดนมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างตาอเนื่อง เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกทางการค้า โดยทาง สปป.ลาว ได้ออกมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการค้าการลงทุน ซึ่งได้มีการยกเลิกใบขออนุญาตการนำเข้าวัสดุก่อสร้างในส่วนของเหล็กและปูนซีเมนต์ ทำให้ช่วยในการลดระยะเวลา และภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกอบการ ขณะที่มาเลเซีย ได้มีการหารือร่วมกับไทย เรื่องอำนวยความสะดวกในการค้าชายแดน โดยทั้งไทยและมาเลเซีย มีความเห็นตรงกันว่า จะทดลองขยายเวลาเปิดด่าน บูกิต กายู ฮิตัม – สะเดาะ ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 สำหรับการส่งสินค้า ส่วนกัมพูชา ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมผลักดันการค้าชายแดนให้เพิ่มขึ้น และเมียนมา ทางกรมฯ ได้ทำการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 ข้ามแม่น้ำเมย ซึ่งเป็นเส้นทางการเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งทางบกในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ส่งผลให้การส่งออกสินค้า สะดวกมากขึ้น

นอกจากนี้ทางกรมฯ ได้จัดการจัดกิจกรรมส่งเสริมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแนวชายแดนและเขตเศรษฐกิจพิเศษอย่างตาอเนื่อง ซึ่งได้มีการเปิดโครงการ YEN-D Season V อย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย โครงการ YEN-D Puls และโครงการ YEN-D Frontier รวมทั้งจะมีการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนที่ อ.สุไหโก-ลก จ.นราธิวาส ปลายเดือนเมษายน 2562 และ อ.แม่สอด จ.ตาก ช่วงต้นเดือน มิถุนายน 2562 โดยคาดว่ากิจกรรมเหล่านี้จะกระตุ้นเศรษฐกิตามเมืองชายแดน และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขยายตัวเพิ่มขึ้น