“เชลล์” งัดไม้เด็ดรุกน็อนออยล์ ผุดจุดรับถ่ายน้ำมันเครื่องมอเตอร์ไซค์

เชลล์ตั้งเป้าปีนี้รุกธุรกิจ nonoil พร้อมเปิดจุดให้บริการเฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จับมือพันธมิตรภาคขนส่ง “พงษ์ระวี-สแกนเนียฯ-ตรีเพชรอีซูซุฯ” เปิดให้บริการน้ำมัน B20 เพื่อการขนส่ง ตั้งเป้าขยายจำนวนสถานีบริการน้ำมันเพิ่มอีก 30 แห่งทั่วประเทศ

นายปนันท์ ประจวบเหมาะ รองประธานกรรมการและกรรมการบริหารฝ่ายการเงิน บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงนโยบายด้านพลังงานของเชลล์ในปี 2562 ว่า ยังคงให้ความสำคัญพลังงานสะอาดรวมไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำมันให้มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น โดยเชลล์ยังคงเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (RSPO) ตามที่สหภาพยุโรปได้กำหนดไว้โดยให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยในปีนี้เชลล์ยังเดินหน้าร่วมมือกับพันธมิตรโดยเฉพาะภาคขนส่งในการพัฒนาพลังงานตอบสนองต่อการใช้งานของผู้ใช้รถด้วย

สำหรับมาตรฐาน RSPO เป็นมาตรฐานที่ครอบคลุมแนวทางต่าง ๆ อาทิ ไม่ตัดไม้ทำลายป่า ไม่ปลูกบนพื้นที่ชุ่มชื้น การดูแลพื้นที่ร่วมกับชุมชน สิทธิของเกษตรกร การจ่ายเงินที่เป็นธรรม และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย การลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในพื้นที่ และเพื่อการรองรับพลังงานจากน้ำมันปาล์มดิบ เชลล์พร้อมสนับสนุนดูแลเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มอย่างเต็มที่เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน รวมไปถึงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมัน B20 สำหรับใช้ในรถขนส่งมากขึ้น โดยล่าสุดเชลล์ก็ได้เปิดให้บริการ B20 ในสถานีน้ำมันแห่งแรกที่ อ.วังน้อย ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งขึ้นภาคเหนือและอีสาน

“เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันพลังงานสะอาด B20 หรือน้ำมันในกลุ่มอื่นที่จะตามมาในอนาคต เชลล์พร้อมร่วมมือกับพันธมิตรภาคการขนส่งไม่ว่าจะเป็นบริษัทพงษ์ระวี-บริษัทสแกนเนีย สยาม พันธมิตรทางเทคนิคอย่างบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจอื่น ๆ ที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานดังกล่าวเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้เชลล์ก็ยังต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้ใช้และผู้ผลิตรถยนต์เพื่อให้ตอบสนองความต้องการให้มากที่สุด” นายปนันท์กล่าว

ด้าน น.ส.อรอุทัย ณ เชียงใหม่ กรรมการบริหารธุรกิจการตลาดค้าปลีก บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงเป้าหมายหลักการทำงานเชลล์ยังคงยึดมั่นใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ 1) การนำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านพลังงานที่ก้าวหน้ามาสู่ประเทศไทย 2) การร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง การเดินหน้าสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงาน และ 3) การพัฒนาศักยภาพและความเป็นอยู่ของผู้คนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยแต่ละแนวทางเชลล์ก็พร้อมที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเพิ่มศักยภาพให้ดีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการการให้บริการแก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันของเชลล์

ยกตัวอย่าง การนำนวัตกรรมเข้ามาให้บริการแก่ผู้ใช้บริการในสถานีบริการน้ำมันเชลล์ด้วยการพัฒนาสถานีบริการ การพัฒนาน้ำมันเกรดพรีเมี่ยม Shell V-Power การนำเทคโนโลยีสะอาดเข้ามาปรับใช้ให้มากขึ้น การพัฒนา B20 เข้ามาให้กับรถขนส่ง นอกจากนี้ เชลล์ได้ความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการเปิดการให้บริการระบบชำระเงินในสถานีบริการปั๊มน้ำมันให้เพิ่มขึ้น ขณะที่การให้บริการร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ Shell SELECT ก็พร้อมที่จะขยายการให้บริการในสถานีบริการที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ รวมไปถึงร้านกาแฟ Deli Cafe” ด้วย

“ในปีนี้เราจะพัฒนาและยกระดับการให้บริการที่ไม่ใช่น้ำมันมากขึ้น และพร้อมที่จะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่เฉลี่ยทั้งประเทศมีมากกว่า 20 ล้านคัน เราจะเปิดให้มีจุดไว้คอยให้บริการกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะรวมไปถึงการให้บริการถ่ายน้ำมันเครื่องอีกด้วย” น.ส.อรอุทัยกล่าว

ปัจจุบันเชลล์มีสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศประมาณ 574 แห่ง และมีเป้าหมายจะขยายสถานีบริการเพิ่มขึ้นปีละ 30 แห่ง ส่วนสถานีบริการที่มีหัวจ่าย B20 ซึ่งเปิดไปแล้ว 1 แห่ง ที่ อ.วังน้อย ในอนาคตมีเป้าหมายในการเพิ่มสถานีบริการอย่างต่อเนื่องในเส้นทางขนส่งที่รถบรรทุกใช้เป็นเส้นทางหลัก