พาณิชย์เร่งแก้ปัญหากระเทียมออกสู่ตลาด ประสานผู้ประกอบการ 11 รายช่วยรับซื้อ

กรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์กระเทียม พร้อมเจรจาผู้ประกอบการเข้ารับซื้อ เบื้องต้นพร้อมให้ความร่วมมือรับซื้อ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อขาย มั่นใจเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมสินค้าไม่ล้น มีที่ขายกระเทียมแน่นอน

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อเชื่อมโยงการตลาดและเจรจาซื้อขายสินค้ากระเทียม ฤดูการผลิต ปี 2561/62 ว่า กรมฯ ได้เตรียมการรองรับผลผลิตกระเทียมที่กำลังออกสู่ตลาด ซึ่งคาดการณ์ปีนี้จะมีผลผลิตประมาณ 85,000 ตัน โดย 50% จะออกสู่ตลาดปกติ ส่วนอีก 50% ที่อยู่ในมือเกษตรกร กรมฯ ได้เชิญผู้ประกอบการ จำนวน 11 ราย เช่น ท็อป ซูเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซี เทสโก โลตัส และแม็คโคร บริษัท ทรัพย์ทวี 555 จำกัด บริษัท ไฮคิวผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด บริษัท ฉั่วฮะเส็งฟู้ดโปรดักส์ จำกัด บริษัท ไทยเทพรส จำกัด (ตราภูเขาทอง) บริษัท พิบูลย์น้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม จำกัด บริษัท นิสชินฟูดส์ (ประเทศไทย) เป็นต้น ในการเชื่อมโยงและรับซื้อกระเทียมจากเกษตรกร

สำหรับกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน จำนวน 17 ราย จากจังหวัดแหล่งผลิต 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน และศรีสะเกษ ที่ร่วมหารือและหาแนวทางการช่วยยกระดับราคาจำหน่ายผลผลิตให้เกษตรกรในพื้นที่ และให้มีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ซึ่งในขณะนี้เกษตรกรเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาดบ้างแล้ว และราคามีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวตามปริมาณผลผลิตที่จะออกกระจุกตัว แม้ว่าผลผลิตบางส่วนเกษตรกรจะขายเป็นกระเทียมสด และบางส่วนเก็บแขวนไว้รอจำหน่ายเมื่อได้ราคาดี ซึ่งมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก ทั้งนี้ กรมการค้าภายในจึงหารือร่วมกับผู้ประกอบการในการขอความร่วมมือการรับซื้อ

เบื้องต้น ผู้ประกอบการพร้อมให้ความร่วมมือและอยู่ในระหว่างการเจรจาการรับซื้อ หากรับซื้อจะรับซื้อในราคา 40-45 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับกระเทียมลอนหรือกระเทียมหัว และ 25-30 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับกระเทียมมัดจุก ขณะที่ มาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้ากระเทียมกรมฯได้ประสานไปยังศุลกากร ชายแดน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งชี้แจงไปยังเจ้าของคลัง หากมีกระเทียมจะต้องมีเอกสารชี้แจงความเป็นเจ้าของ ของใคร พร้อมกับมีใบอนุญาตนำเข้าครบถ้วน สำหรับการเคลื่อนย้ายก็ต้องมีใบอนุญาตให้ชัดเจน โดยเชื่อว่าจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าว ส่วนหอมหัวแดงยังไม่มีปัญหาแต่อย่างไร ทั้งนี้ กรมฯก็จะติดตามดูแลสินค้าอย่างใกล้ชิด