การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือ ณ วันที่ 13 เมษยน 2562

 

๑. สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ประจำวันศุกร์ที่ 13 เมษายน 2562 ณ เวลา 9.00 น. จากการตรวจวัด 17 พื้นที่ ใน 9 จังหวัดภาคเหนือ สรุปได้ดังนี้

– ค่า PM2.5 มีค่าอยู่ระหว่าง 50 – 207 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) (ค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม.) โดยพบค่าสูงสุดที่ ต. ห้วยโก๋น อ. เฉลิมพระเกียรติ จ. น่าน และค่าต่ำสุดที่   ต. แม่ปะ อ. แม่สอด จ. ตาก

– มีค่าลดลง 3 พื้นที่ เท่าเดิม 1 พื้นที่ และเพิ่มขึ้น 13 พื้นที่ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อวาน

– คุณภาพอากาศมีค่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง – มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสีแดง 12 พื้นที่ (มีผลกระทบต่อสุขภาพ) สีส้ม 4 พื้นที่ (เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ) และสีเหลือง 1 พื้นที่ (คุณภาพอากาศปานกลาง)

 

ลำดับ สถานี ค่า PM2.5 (มคก./ลบ.ม.) เปรียบเทียบค่า PM2.5

(12 และ 13 เม.ย. 62)

11 เม.ย. 12 เม.ย. 13 เม.ย.
1 ต.เวียงคำ อ.เมือง จ.เชียงราย 82 83 109 เพิ่มขึ้น 31.3 %
2 ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 152 194 202 เพิ่มขึ้น 4.1 %
3 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 93 99 99 เท่าเดิม
4 ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 86 85 91 เพิ่มขึ้น 7.1 %
5 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 73 69 72 เพิ่มขึ้น 4.3 %
6 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 101 93 114 เพิ่มขึ้น 22.6 %
7 ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง 81 84 93 เพิ่มขึ้น 10.7 %
8 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 73 75 74 ลดลง 1.3 %
9 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 75 80 121 เพิ่มขึ้น 51.3 %
10 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 78 80 83 เพิ่มขึ้น 3.8 %
11 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน 92 86 92 เพิ่มขึ้น 7.0 %
12 ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน 81 104 114 เพิ่มขึ้น 9.6 %
13 ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน 81 120 125 เพิ่มขึ้น 4.2 %
14 ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน 125 165 207 เพิ่มขึ้น 25.5 %
15 ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ 65 75 59 ลดลง 21.3 %
16 ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา 99 126 146 เพิ่มขึ้น 15.9 %
17 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก 63 66 50 ลดลง 24.2 %
                                  เฉลี่ย 88.2 99.1 108.9 เพิ่มขึ้น 9.9 %

 

หมายเหตุ : N/A หมายถึง ไม่มีข้อมูลเนื่องจากเครื่องมือขัดข้อง

๒. สถานการณ์จุดความร้อน (Hotspot) ในวันที่ 12 เมษายน 2562 จากดาวเทียมระบบ MODIS ดังนี้

– จุดความร้อนรวมทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือ มีทั้งสิ้น 130 จุด โดยเพิ่มขึ้นจากวันที่ 11 เมษายน 2562 จำนวน 12 จุด หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 10.2 %

– มีจำนวนมากสุดที่ จ. เชียงราย จำนวน 54 จุด

– สามารถแบ่งตามประเภทพื้นที่ได้ดังนี้

1) พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 74 จุด

2) เขต สปก. 2 จุด

3) ป่าสงวนแห่งชาติ 53 จุด

4) ชุมชนและอื่นๆ 1 จุด

 

ลำดับ จังหวัด จำนวนจุด Hotspot (จุด) เปรียบเทียบจุด Hotspot

(11 และ 12 เม.ย. 62)

10 เม.ย. 11 เม.ย. 12 เม.ย.
1 จ.เชียงราย 32 19 54 เพิ่มขึ้น 184.2 %
2 จ.เชียงใหม่ 11 10 7 ลดลง 30.0 %
3 จ.ลำปาง 6 5 15 เพิ่มขึ้น 200.0 %
4 จ.ลำพูน 6 1 0 ลดลง 100.0 %
5 จ.แม่ฮ่องสอน 10 18 25 เพิ่มขึ้น 38.9 %
6 จ.น่าน 5 9 11 เพิ่มขึ้น 22.2 %
7 จ.แพร่ 13 0 5     เพิ่มขึ้น *
8 จ.พะเยา 0 15 12 ลดลง 20.0 %
9 จ.ตาก 0 41 1 ลดลง 97.6 %
                 รวม 83 118 130 เพิ่มขึ้น 10.2 %

 

หมายเหตุ : ข้อมูลจุดความร้อนจากดาวเทียมระบบ MODIS

เพิ่มขึ้น * หมายถึง มีค่าเพิ่มขึ้น แต่คำนวณ % การเพิ่มขึ้นไม่ได้เนื่องจากฐานเป็นศูนย์

 

๓. สถานการณ์หมอกควันข้ามแดน โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (  GISTDA) รายงานการปกคลุมของหมอกควันจากดาวเทียมระบบ MODIS ประจำวันที่ 12 เมษายน 2562 พบว่า มีกลุ่มหมอกควันปกคลุมบริเวณฝั่งตะวันตกและฝั่งเหนือของภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และเชียงราย และมีทิศทางลมพัดจากทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือเข้าสู่ประเทศไทย ดังนั้นนอกจากปัญหาการเผาในที่โล่งภายในประเทศไทยแล้ว จังหวัดดังกล่าวอาจได้รับผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดนได้อีกด้วย

๔.     การดำเนินงานแก้ไขปัญหาหมอกควันของ 9 จังหวัดภาคเหนือ

 

จังหวัดเชียงใหม่

 นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายกเทศมนตรีตำบลสุเทพ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านบ้านม้งดอยปุย ลงพื้นที่สำรวจการจัดทำแนวกันไฟรอบบริเวณหมู่บ้านและพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศ์ ซึ่งทางชุมชนหมู่บ้านม้งดอยปุยได้จัดทำแนวกันไฟ รวมระยะทาง 21 กิโลเมตร เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟป่า และร่วมกันแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์การห้ามเผาป่าในพื้นที่ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ทางจังหวัดยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องและใช้มาตรการเข้ม คือ การห้ามเผาโดยเด็ดขาด การจับกุมผู้กระทำผิดในการเผาป่า และการดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และพี่น้องประชาชน สร้างความเข้าใจร่วมกันในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยการไม่เผาป่า เพื่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนทุกคน

จังหวัดลำพูน

ตรวจพบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดลำพูน รวมจำนวน 11 จุด นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ได้สั่งการให้นายอำเภอทุ่งหัวช้าง นายอำเภอแม่ทา และนายอำเภอลี้ ประสานกำลังฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชรบ. อปพร. ราษฎรจิตอาสา      เข้าปฏิบัติงานดับไฟที่เกิดขึ้นในแต่ละจุดทันที โดยอำเภอทุ่งหัวช้าง เกิดขึ้น 3 จุด ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ บ้านโป่งแดง หมู่ที่ 5 ตำบลทุ่งหัวช้าง และบ้านห้วยปิง หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านปวง ดับไฟได้ทั้งหมดแล้ว อำเภอลี้เกิดขึ้น 7 จุด จุดที่1 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ตำบลนาทราย จุดที่2 ในเขตป่าอนุรักษ์ พื้นที่ตำบลดงดำ ดับไฟได้ทั้งหมดแล้ว จุดที่ 3 – 6 ในเขตป่าอนุรักษ์ พื้นที่ตำบลลี้ จุดที่ 7 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ตำบลศรีวิชัย ซึ่งดับไฟได้ทั้งหมดแล้วทั้ง 7 จุด อำเภอแม่ทา เกิดขึ้น 1 จุด ในป่าอนุรักษ์ พื้นที่ตำบลทาปลาดุก ดับไฟได้แล้วเช่นกัน

จังหวัดพะเยา

 จังหวัดพะเยาร่วมกับส่วนราชการ อำเภอเมืองพะเยา แขวงทางหลวงพะเยา แขวงทางหลวงชนบทพะเยา ปภ.พะเยา มทบ.34 หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาลตำบล เทศบาลเมืองพะเยา และเทศบาลเมืองดอกคำใต้ ร่วมดำเนินมาตรการเพิ่มความชุ่มชื้น ลดหมอกควัน และฝุ่นละอองในอากาศ โดยนำรถยนต์บรรทุกน้ำ รถดับเพลิง ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้น และลดหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ทำความสะอาดถนน พื้นที่อำเภอเมืองพะเยา ณ กว๊านพะเยา ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง สวนสมเด็จย่า และถนนชายกว๊าน อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ทั้งนี้ จะทำการฉีดพ่นละอองน้ำแรงดันสูง วันละ 3 รอบเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

 

จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอำเภอปางมะผ้า โดยการอำนวยการของนายจรูญ สร้อยจิต นายอำเภอปางมะผ้า ในฐานะ ผอ.ศูนย์ฯ นายวงศกร คำหอม ปลัดอำเภอปางมะผ้า ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านสบป่องและผู้ช่วย อบต. มอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ป่วยในบรมราชานุเคราะห์ตามโครการศศูนย์การเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระดับอำเภอ ชุดปฏิบัติการกองร้อย อส.อ.ปางมะผ้า ชป.1 ออกลาดตระเวนเส้นทาง ต.สบป่อง พบไฟ 2 จุด จุดที่ 1 บริเวณบ้านน้ำริน จุดที่ 2 บริเวณบ้านหนองขาวและได้ทำการดับเป็นที่เรียบร้อย และผู้ใหญ่บ้านเมืองแพม และอาสาดับไฟ บ้านเมืองพม ม.5 ต.ถ้ำลอด ได้ออกลาดตระเวนเขตติดต่อผามอญ กับเมืองแพม ไม่พบไฟป่า เหตุการณ์ปกติ

– สถานีควบคุมไฟป่าปางมะผ้า ปฏิบัติงานดับไฟ บริเวณไฟไหม้ในป่าใกล้บ้านหนองผาจ้ำ หมู่ 4 ต.สบป่อง  อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ตรวจพบโดยรับแจ้งทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารราบที่ 721 ฐานปฏิบัติการบ้านจ่าโบ่ พยพื้นที่เสียหาย 35 ไร่

– สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ร่วมระดมฉีดพ่น ละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศ ลดปัญหาหมอกควันค่า PM2.5 ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน และเส้นทางบริเวณถนนหน้าอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา ผ่านศูนย์ราชการ ผ่านซุ้มประตูเมืองทิศใต้ จนถึงบริเวณสามแยกหน้าโบสถ์นักบุญฟรังซิลเซเวีย (บ้านไม้แงะ)

จังหวัดลำปาง

จังหวัดลำปางบูรณาการหน่วยงานร่วมฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อสร้างความชุ่มชื้น และลดฝุ่นละอองในอากาศพื้นที่ตำบลพระบาท โดยนายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้สั่งการให้อำเภอเมืองลำปาง ร่วมกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปางประสานงานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 10 ลำปาง มทบ.32 เทศบาลเมืองเขลางค์นคร เทศบาลนครลำปาง ร่วมกับท่าอากาศยานลำปาง นำรถบรรทุกน้ำ ยานยนต์ฉีดพ่นละอองน้ำ และเจ้าหน้าที่ ร่วมกันฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นควัน บริเวณท่าอากาศยานลำปาง     ในพื้นที่ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เป็นประจำทุกวันอย่างต่อเนื่อง

 จังหวัดแพร่

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ ปฏิบัติการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กและเพิ่มความชื้นในอากาศเป็นประจำทุกวัน โดยได้รับการสนับสนุนรถหุ่นยนต์ดับเพลิงแรงดันสูงควบคุมระยะไกล จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย และได้รับการสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงพร้อมเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองแพร่ กองพันทหารม้าที่ 12 แขวงทางหลวงแพร่ แขวงทางหลวงชนบท อบจ.แพร่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่งร่วมปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง

จังหวัดเชียงราย

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ร่วมกับเทศบาลตำบลแม่สาย ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดปริมาณค่าฝุ่นละอองในอากาศ ณ บริเวณหน้าด่านผ่านแดนแม่สาย ปริมาณน้ำ 15,000 ลิตร บริเวณหน้า สภ.แม่สาย ปริมาณน้ำ 10,000ลิตร และบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอแม่สาย ปริมาณน้ำ 10,000 ลิตร

จังหวัดน่าน

– หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และปกครองในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้ดำเนินการฉีดน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื้นและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศอันเนื่องจากไฟป่าและหมอกควันในหลายอำเภอ อาทิเช่น อำเภอปัว และอำเภอทุ่งช้าง

– หน่วยส่งเสริมการควบคุมไฟป่านาน้อย ร่วมงาน ร่วมแรง ร่วมใจ คืนคนดีสู่สังคม ขจัดภัยไฟป่า            ตามโครงการลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ โดยบูรณาการความร่วมมือกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ โดยทำการจัดการเชื้อเพลิง ทำปุ๋ยอินทรีย์ และทำแนวกันไฟ ในเขตป่าแหล่งโบราณคดีภูชาง ท้องที่บ้านก๊อดนาชาว ตำบล  นาซาว อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน มีผู้เข้าร่วมประมาณ ๒๐๐ คน

 จังหวัดตาก

ศูนย์บัญชาการหมอกควันและไฟป่าอำเภอแม่สอดจัดรถดับเพลิงทำการฉีดพ่นละอองน้ำและล้างถนน เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศในพื้นที่อำเภอแม่สอด โดยได้รับการสนับสนุนรถน้ำจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 14 เทศบาลนครแม่สอด และศูนย์ปภเขต 9 พิษณุโลก