กนอ.เร่งเจรจา‘กัลฟ์-พีทีที’ โครงการประมูลท่าเรือมาบตาพุดเฟส3

ดร.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

กนอ.เผยความคืบหน้าประมูลโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) “บริษัทกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์และพีทีทีแทงค์” คุณสมบัติเบื้องต้นและข้อเสนอทางเทคนิคผ่านฉลุย ครบถ้วนตามเงื่อนไข TOR  คณะกรรมการเดินหน้าเจรจาผลตอบแทนของรัฐบนหลักการที่ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด คาดกระบวนการทั้งหมดแล้วเสร็จเมษายนนี้ พร้อมส่งเรื่องอัยการตรวจร่างสัญญาร่วมลงทุน คาดลงนามได้เดือนมิถุนายน

ดร.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการพิจารณาข้อเสนอการประมูลโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 1) ของบริษัทกลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์และพีทีที แทงค์ (บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์-บริษัทพีทีที แทงค์ เทอร์มินอล) ซึ่งยื่นประมูลเพียงรายเดียวว่า ขณะนี้คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) Net Cost อยู่ระหว่างการเจรจาข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและผลตอบแทนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดที่ภาครัฐจะได้รับจากการเปิดให้ภาคเอกชนเข้าบริหารจัดการท่าเรือในระยะ 30 ปี โดย กนอ.จะสรุปเพื่อประกาศรายชื่อผู้ชนะเพื่อรับรองผลอย่างเป็นทางการภายในเดือนเมษายนนี้ จากนั้นจะลงนามในสัญญาร่วมทุนได้ภายในเดือนมิถุนายน

“เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มกิจการค้าร่วมกัลฟ์และพีทีที แทงค์ ได้ยื่นซองข้อเสนอรายละเอียดทางเทคนิคและเอกสารรายละเอียดด้านราคา ต่อคณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนฯ และเราได้ตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติเป็นไปตามร่างเงื่อนไขสัญญา หรือ TOR ตอนนี้อยู่ระหว่างเจรจาเงื่อนไขการลงทุนและผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับ” ดร.สมจิณณ์กล่าว

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ช่วง รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 55,400 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) โดยภาคเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการในครั้งนี้จะสามารถเข้าพัฒนาได้ภายหลังจากที่ทำการลงนามในสัญญาร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ ภาคเอกชนจะได้สิทธิ์ในการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือ (superstructure) 200 ไร่ รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 47,900 ล้านบาท

แบ่งเป็น กนอ.ร่วมลงทุนเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิไม่เกิน 12,900 ล้านบาท และภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ได้แก่ การขุดลอกและถมทะเล พื้นที่ 1,000 ไร่ แบ่งเป็น พื้นที่ใช้ประโยชน์ 550 ไร่ และพื้นที่เก็บกักตะกอน 450 ไร่ การขุดลอกร่องนํ้า และแอ่งกลับเรือ การก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมการเดินเรือ ท่าเทียบเรือบริการ และท่าเรือก๊าซรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซได้ 10 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568

ส่วนช่วงที่ 2 จะเป็นการลงทุนพัฒนาก่อสร้างในส่วนของท่าเรือ (superstructure) กนอ.จะดำเนินการออก TOR เพื่อประกาศเชิญชวนภาคเอกชนที่สนใจเข้าร่วมพัฒนา โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือสินค้าเหลวรองรับปริมาณขนถ่ายสินค้าเหลวได้ 4 ล้านตันต่อปี คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และเปิดให้บริการได้ภายในปี 2568 จะใช้เงินลงทุนประมาณ 4,300 ล้านบาท และงานก่อสร้างพื้นที่หลังท่า จำนวน 150 ไร่ เงินลงทุน 3,200 ล้านบาท เพื่อรองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เนื่องจากปัจจุบันการใช้งานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด มีการใช้งานใกล้เต็มศักยภาพรองรับแล้ว จึงจำเป็นต้องขยายเป็นระยะที่ 3 เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และสินค้าเหลวสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งคาดว่าจะสามารถรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวได้เพิ่มอีก 14 ล้านตันต่อปี ในอีก 30 ปีข้างหน้า