ส.อ.ท. ยื่นคัดค้านขึ้นภาษีสรรพสามิตเกลือในอาหารกึ่งสำเร็จรูป-ขนมกรุบกรอบ-ผงชูรส ชี้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด

เค็มเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือราคา!! ‘ส.อ.ท.’ ยื่นเอกสารคัดค้านขึ้นภาษีสรรพสามิตเกลือในผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป -ขนมกรุบกรอบ-ผงชูรส ชี้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ทั้งสร้างผลกระทบต้นทุนการผลิตอาหาร ขู่ขึ้นราคาแน่
นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสำเร็จรูป เปิดเผยว่า ทางสภาอุตสาหกรรมอาหาร ได้ยื่นเอกสารคัดค้านการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตส่วนผสมเกลือและโซเดียมในสินค้าอาหาร 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารกึ่งสำเร็จรูป ขนมกรุบกรอบ และผงชูรส ตามที่ทางคณะกรรมการนโยบายลดบริโภคเกลือและโซเดียม โดยคาดว่าจะเสนอให้มีผลบังคับใช้เร็วๆนี้
 
“มองว่ามาตรการนี้นอกจากจะไม่ใช่มาตราการที่ถูกต้องและเหมาะสมแล้วยังเป็นการจัดการปัญหาเรื่องโรคไม่ติดต่อไม่ตรงประเด็น ทั้งนี้ยังเป็นการทำลายความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการ ที่ต้องมีภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจำเป็นจะต้องปรับราคาอาหารให้สูงขึ้น ซึ่งท้ายที่สุดผลกระทบก็ตกไปอยู่กับผู้บริโภคในฐานะผู้แบกรับราคาอาหารและค่าครองชีพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกทั้งยังทำให้ความสามารถในการแข่งขันในตลาดลดลงทั้งระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม และยังส่งผลกระทบไปถึงผู้ประกอบการภัตตาคาร ร้านค้า แผงลอย รวมถึงอุตสาหกรรมทุกระดับ”
 
ทั้งนี้ การบริโภครสเค็มถือเป็นพฤติกรรมการบริโภคส่วนบุคคล แต่ไม่ได้หมายความว่าการเก็บภาษีเกลือ จะทำให้ผู้บริโภค บริโภคผลิตภัณฑ์ลดลง จนทำให้ปริมาณการรับโซเดียมลดลงตามไปด้วย เพราะในอาหารอื่นที่มีการรับประทานมีส่วนผสมที่เป็นแหล่งของโซเดียมอยู่ด้วย อีกทั้งโซเดียมยังเป็นช่วยในการถนอมอาหาร ป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค
 
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า ทางอุตสาหกรรมอาหารได้ร่วมมือกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกันจัดทำฉลากจีดีเอ หรือฉลากหวาน มัน เค็ม ที่จะแสดงข้อมูลโภชนาการ โดยแสดงค่าพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม มาแสดงที่ฉลากด้านหน้าบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นได้ชัดเจน และอ่านง่าย โดยบังคับให้อาหารสำเร็จรูปพร้อมทานต้องแสดงฉลากนี้ นอกจากนี้จะพยายามสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนเรื่องการบริโภคอาหาร ซึ่งต้องขอความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชน
 
สำหรับมูลค่าตลาด ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ รวมทั้งหมดมีมูลค่า 63,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ตลาดขนมขบเคี้ยว 36,000 ล้านบาท อาหารกึ่งสำเร็จรูป 16,000 ล้านบาท และผงชูรส 11,000 ล้านบาท
 
นอกจากนี้ จากการประเมินสถานการณ์การตลาดอาหารในประเทศไทย ปี 2562 มีมูลค่าตลาด 1.5 ล้านล้านบาท ขยายตัวจากปีก่อนประมาณ 5% อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง เงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อความสามารถการแข่งขันด้านราคา ต้นทุนการบริหารการจัดการ สหรัฐตัดสิทธิโครงการทบทวนการให้สิทธิประโยชน์ ฯ (จีเอสพี) 11 รายการ เช่น ทุเรียนสด มะละกอตากแห้ง มะขามตากแห้ง ข้าวโพดปรุงแต่ง เป็นต้น