ปาล์มคอมเพล็กซ์สะดุดฝน “พีทีจี”เลื่อนผลิตไปต้นปี”61

พีทีจีฯขยับโปรเจ็กต์ปาล์มคอมเพล็กซ์มูลค่า 4.8 พันล้านเข้าระบบปี”61 หลังฝนมาเร็วก่อสร้างล่าช้า ยอมรับช่วงผลผลิตน้อย ราคาปาล์มผันผวน ประเมินราคา B100 ยาก

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงความคืบหน้าโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ มูลค่าลงทุน 4,800 ล้านบาท ในพื้นที่อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่า เดิมวางเป้าหมายโครงการจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะเลื่อนเป็นช่วงเดือนมกราคม 2561 เนื่องจากฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติ ส่งผลให้การก่อสร้างไม่เป็นไปตามแผน ประเมินเบื้องต้นจะเริ่มเดินเครื่องเพื่อทดสอบระบบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งการขยับเลื่อนเข้าระบบน่าจะเป็นผลดี เนื่องจากในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ราคาผลปาล์มที่ใช้เป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้น และกระทบต่อต้นทุนการผลิตไบโอดีเซล (B100) ที่จะนำมาผสมกับเนื้อน้ำมันดีเซลด้วย

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม 2561 ที่จะเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์เป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มค่อนข้างน้อย แต่ช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผลผลิตปาล์มจะเข้าระบบมากขึ้น ส่งผลให้ราคาปรับลดลง ดังนั้น เพื่อรองรับความผันผวนของราคาผลปาล์มในบางช่วง บริษัทพีทีจีฯได้เตรียมก่อสร้างคลังเพื่อใช้เก็บวัตถุดิบในช่วงที่ผลปาล์มราคาถูก จะนำมาหีบและเก็บไว้ โดยปัจจุบันคลังก่อสร้างแล้วเสร็จมีศักยภาพเก็บได้ 500,000 ตัน แต่เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดจะมีศักยภาพเก็บได้สูงสุด 100,000 ตัน ทำให้ลดความผันผวนของต้นทุนการผลิตได้ นอกจากนี้ มีการบริหารจัดการการขนส่งน้ำมันปาล์ม เพื่อทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของ B100 ลดลง และสามารถแข่งขันกับผู้ค้าน้ำมันรายอื่นในตลาดได้

“ปริมาณการผลิตเริ่มต้นจากโรงงานประมาณ 450,000 ลิตร/วัน ยังไม่สามารถรองรับความต้องการใช้ของบริษัท พีทีจีฯ ที่ต้องนำมาผสมกับน้ำมันดีเซลและจำหน่ายให้ลูกค้าผ่านสถานีบริการน้ำมันที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ยอมรับว่าผลผลิตปาล์มค่อนข้างผันผวน ทำให้ประเมินราคา B100 ได้ค่อนข้างยาก เพราะมีหลายประเด็นเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นระดับราคาทะลายปาล์ม รวมถึงการเดินเครื่องผลิตว่าจะได้กี่เปอร์เซ็นต์”

สำหรับโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์นี้ เป็นการร่วมทุนกันระหว่างบริษัท ท่าฉาง อุตสาหกรรม จำกัด หรือ TGC และบริษัท อาร์ดีเกษตรพัฒนา จำกัด ภายใต้บริษัท ทริปเปิล พี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด (PPP Green Complex) โดยมีเงื่อนไขว่า ในกรณีที่มีลูกค้าขอซื้อน้ำมันปาล์ม หรือไบโอดีเซล ที่ให้ราคาดีกว่าพีทีจีฯ และมีปริมาณการสั่งซื้อไม่น้อยกว่าร้อยละ 30-40 สามารถจำหน่ายให้ลูกค้าได้ ส่วนในกรณีที่ยังไม่มีลูกค้าสั่งซื้อ พีทีจีฯจะนำกำลังผลิต B100 จากโรงงานดังกล่าวไปผสมกับน้ำมันดีเซล เพื่อจำหน่ายให้กับผู้ใช้น้ำมันต่อไป

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ดังกล่าว จะประกอบไปด้วย โรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ โรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ และโรงงานผลิตไบโอดีเซล (B100) คาดว่าเมื่อโครงการดังกล่าวก่อสร้างแล้วเสร็จทุกส่วนจะมีกำลังผลิตรวมสูงถึง 900,000 ลิตร ทั้งนี้ ตามแผนการลงทุน 5 ปี (2560-2564) ของพีทีจีฯ จะอยู่ที่ 3,500 ล้านบาท มุ่งเน้นการขยายสถานีบริการน้ำมันให้ครอบคลุมทั่วประเทศที่ 400 แห่ง/ปี จากปัจจุบันที่มีสถานีบริการแล้วรวมทั้งสิ้น 1,500 แห่ง ทั้งนี้จำนวนสถานีบริการน้ำมันเป็นรองเพียงเจ้าตลาดอย่างบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่มีรวมประมาณ 1,700 แห่งทั่วประเทศ