ช่วยทุกทาง! หวังปาล์มราคาขึ้น 22 มิ.ย. จ่อประกาศฯเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มที่โรงสกัด-พร้อมหนุนรถใช้ B20

กระทรวงอุตสาหกรรม ใช้ 2 มาตรการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์ม กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่โรงสกัด 18% (ทั้งทลาย) 30% (เฉพาะผล) มีผลบังคับใช้ 22 มิ.ย. 2562 ปรับปรุงระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล หรือ ECO Sticker รถปิกอัพ รองรับการใช้น้ำมัน B20 “โตโยต้า-อีซูซุ” ขานรับ ช่วยดูดซับปาล์มดิบในระบบได้ประมาณ 500,000 ตัน/ปี ก่อให้เกิดมูลค่าปาล์มน้ำมันประมาณ 1,200 ล้านบาท/ปี หวังช่วยสร้างเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมัน

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มีแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำมันปาล์มดิบทั้งระบบ โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการ 2 มาตรการหลัก ได้แก่ มาตรการกำหนดมาตรฐานวัตถุดิบเพื่อเข้าโรงงาน มาตรการส่งเสริมรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน B20 และควบคู่ไปกับการตรวจสอบโรงงานในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมัน พัฒนาประสิทธิภาพกระบวนผลิต เพื่อให้มีการใช้วัตถุดิบอย่างต่อเนื่อง

โดยมาตรการกำหนดมาตรฐานวัตถุดิบเพื่อเข้าโรงงาน จะช่วยยกระดับราคาผลปาล์มเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และส่งเสริมให้เกิดการผลิตที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น

กระทรวงอุตสาหกรรมได้ออกประกาศกำหนดให้โรงงานรับซื้อวัตถุดิบที่มีน้ำมันไม่น้อยกว่า 18% สำหรับโรงหีบแยก (รับปาล์มทั้งทลาย) และไม่น้อยกว่า 30% สำหรับโรงหีบรวม (รับเฉพาะผล) จะทำให้โรงงานมีวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิต โดยไม่ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายจากการควบคุมการผลิต จากความไม่สม่ำเสมอของคุณภาพวัตถุดิบมากนัก เกษตรกรได้ราคาตามเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ส่งขาย โดยประกาศกระทรวงฯ ฉบับนี้ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 มิถุนายน 2562

ซึ่งในระหว่างนี้ กระทรวงฯ อยู่ระหว่างเตรียมจัดทำแนวทางปฏิบัติตามประกาศกล่าว และได้สั่งการให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดในพื้นที่กำกับ ติดตาม และบูรณาการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิผลจากประกาศกระทรวง

สำหรับมาตรการส่งเสริมรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน B20 กระทรวงฯ ได้สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมัน B20 ของกระทรวงการคลัง ซึ่งได้ออกประกาศลดอัตราภาษีสรรพสามิตสำหรับรถปิกอัพประเภท 2 ประตู และรถปิคอัพ ประเภท4 ประตู ที่สามารถใช้น้ำมัน B20 ได้

เช่น รถปิกอัพที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2) ต่ำกว่า 200 กรัมต่อกิโลเมตร ที่ใช้น้ำมัน B20 จะลดภาษีจาก 2.5%  มาเป็น 2% ด้วยการปรับปรุงระบบป้ายข้อมูลรถยนต์ตามมาตรฐานสากล (ECO Sticker) สำหรับรถปิกอัพเพื่อรองรับการใช้น้ำมัน B20 ได้ เพื่อให้ผู้ผลิตนำไปชำระภาษีสรรพสามิตและเป็นการยืนยันให้กับผู้บริโภคว่า รถปิกอัพรุ่นดังกล่าวสามารถใช้น้ำมัน B20 ได้

สำหรับระบบ ECO Sticker นี้ เปิดให้ยื่นตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2562 โดยปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์จำนวน 2 ราย ได้แก่ โตโยต้าและอีซูซุ  ได้รับการอนุมัติ ECO Sticker สำหรับรถปิกอัพที่ใช้น้ำมัน B20 แล้ว ประมาณ 120 รุ่น  โดยหากคำนวณจากสัดส่วนตลาดของทั้งส 2 บริษัท (คิดเป็น 70% ของรถปิกอัพทั้งหมดที่จำหน่ายในประเทศ)

ทั้งนี้ประมาณการณ์ว่า รถปิกอัพ B20 จะมียอดขายในประเทศประมาณ 300,000 คัน/ปี หากรถปิกอัพจำนวนนี้มีการใช้น้ำมัน B20 จะสามารถดูดซับปาล์มดิบในระบบได้ประมาณ 500,000 ตัน/ปี ก่อให้เกิดมูลค่าปาล์มน้ำมันประมาณ 1,200 ล้านบาท/ปี

“นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงฯ ตรวจสอบโรงงาน ให้มีการรับวัตถุดิบปาล์มน้ำมัน เพื่อให้เกิดการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยได้มอบหมายให้อุตสาหกรรมจังหวัด ดำเนินการตรวจสอบโรงงานอย่างใกล้ชิด และส่งเสริม พัฒนาประสิทธิภาพของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เพื่อให้โรงงานมีการรับซื้อวัตถุดิบในราคาที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าทุกมาตรการ จะช่วยยกระดับและรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ”