ขุมทรัพย์อีคอมเมิร์ซจีน

นายเซน หลี่ กรรมการผู้บริหาร บริษัท Britech (Thailand) ได้แนะนำสินค้าที่มีอนาคตเติบโตได้ดีในตลาดจีน เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ยังเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูง อาทิ เครื่องสำอาง “มิสทิน” สามารถเข้าไปทำตลาดได้ถึงปีละ 5,000 ล้านหยวน จนต้องตั้งสำนักงานสาขาในเมืองหางโจว และจ้างผู้ให้บริการลูกค้า 200 ล้านคน

สำหรับแผนการตลาดในจีนจะต้องเน้นการทำตลาดยุคใหม่แบบที่จีนกำลังนิยมใช้ KOL หรือ “เน็ตไอดอล” ที่ผ่านมามีเคสที่ KOL ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ 300,000 หยวน ในเวลาเพียง 2 ชม. แต่ต้องเลือก KOL ที่เหมาะสมกับสินค้าด้วย ส่วนวางแผนและงบประมาณการทำตลาดออนไลน์ ควรเริ่มต้นอย่างเข้มข้นช่วง 6 เดือนแรก กำหนดวงเงินทำการตลาด 50-60% ของเป้าหมายยอดขาย จากนั้นเมื่อสินค้าติดตลาดแล้วค่อยรักษาระดับวงเงินการทำตลาดไว้ที่ปีละ 30% คงที่ 1.5-2 ปี


โดยกลุ่มลูกค้าสำคัญของตลาดอีคอมเมิร์ซในจีน คือ ผู้ที่มีอายุประมาณ 25-45 ปี จะมีกำลังซื้อและมีไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าออนไลน์เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีรสนิยม เช่น นิยมดื่มกาแฟ-ไวน์SMEs ที่มุ่งรุกตลาดจีนจำเป็นต้องมีสินค้าที่ผลิตด้วยแบรนด์ตัวเอง หรือรับจ้างผลิต (OEM) ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย เพราะมักจะเกิดปัญหากันระหว่างตัวแทนจำหน่ายและเจ้าของแบรนด์หลังจากสินค้าติดตลาดแล้ว และที่สำคัญ ต้องมุ่งตลาดจีนเป็นหลัก ไม่ทำตลาดกระจายทุกประเทศ และต้องโฟกัสจุดขายเรื่องเดียว เช่น อาหารปลอดภัย ไม่ใช่โฆษณาสรรพคุณสินค้าที่ทำให้รู้สึกว่ามากเกินจริง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ เช่น เป็นครีมที่รักษาได้ทุกอย่าง