กรมพัฒฯเผยเม.ย.62 การตั้งธุรกิจใหม่ลดลง แต่ยังมั่นใจเดือนพค.เพิ่ม

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผย เม.ย.62 การตั้งธุรกิจใหม่ลดลงจากเดือนมี.ค.62 “ญี่ปุ่น”ยังครองแชมป์ลงทุนในไทยมากที่สุด คาดยอดเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทตัดตั้งใหม่ คือ ธุรกิจทั่วไป

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์​ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยยอดจดทะเบียนธุรกิจ ประจำเดือน เม.ย. 2562 ว่า เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา มียอดจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ทั่วประเทศ รวม 5,944 ราย เพิ่มขึ้น 824 ราย หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา แต่ลดลง 932 ราย หรือลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.62 ที่มียอดจดทะเบียนบริษัทใหม่รวมถึง 6,876 ราย

สำหรับมูลค่าลงทุนเดือนเม.ย. มียอดรวมทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท ลดลง 2,840 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.62 ที่มียอดรวม 17,840 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 16 และลดลงร้อยละ 59 เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ปี 61 ที่มียอดรวม 21,362 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 59

สำหรับประเภทธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างทั่วไป ธุกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร

ขณะที่ธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสม ในช่วง 4 เดือนแรกปี 62 (ม.ค.ถึงเม.ย.) มีจำนวน 26,694 ราย เพิ่มขึ้น 1,525 ราย หรือเพื่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่มียอดธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสมรวม 25,169 ราย

ด้านมูลค่าทุนจดทะเบียนธรุกิจตั้งใหม่สะสม 4 เดือนแรกปีนี้ มียอดรวม 67,391 ล้านบาท ลดลง 29,802 ล้านบาท ลดลงคิดเป็นร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา  ที่มียอดรวม 97,193 ล้านบาท

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเม.ย.62 มีจำนวน 985 ราย ลดลง 90 รายหรือลดลงร้อยละ 8  เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค.62 ที่ม่ียอดเลิกกิจการรวม 1,075 ราย  และเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.61 การเลิกประกอบการเพิ่มขึ้น 109 ราย หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 24 สำหรับธุรกิจเลิกประกอบการสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจค้าสลาก

ด้านมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบการ เดือนเม.ย.62 มีจำนวน 3,830 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 828 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 28 เมื่อเทียบกับเดือน มี.ค.61 ที่มีมูลค่าเลิกประกอบการรวม 3,002 ล้านบาท แต่ลดลงลดลงคิดเป็นร้อยละ 51 หรือลดลงจำนวน 4,063 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. 61 ที่มียอดเลิกประกอบการรวมมูลค่ารวม 7,893 ล้านบาท

ยอดเลิกธุรกิจสะสมในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.ถึงเม.ย.) มีจำนวน 4,273 ราย เพิ่มขึ้น 390 ราย เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่มียอดเลิกกิจการสะสม 3,883 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมรวม. 13,825 ล้านบาท ลดลง 12,585 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา ที่ม่ียอดรวม 26,410 ล้านบาท

ธุรกิจที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน (เม.ย.62) มีจำนวน 734,983 ราย มูลค่าทุน 16.63 ล้านล้านบาท

สำหรับแนวโน้มการจัดตั้งธุรกิจ จากการประเมินอัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ ทิศทางการประกอบธุรกิจรวมถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตามฤดูกาล คาดว่า ในเดือนพ.ค.62 จะมีการจัดตั้งธุรกิจเพิ่มจากเดือนเม.ย.62 และจะมียอดสะสมในช่วง ม.ค.ถึง พ.ค.ไม่น้อยกว่า 32,000 ราย

ในเดือนเม.ย.62 มีการอนุญาตให้ต่างชาติประกอบธุรกิจรวม 38 ราย ลดลงจากเดือนมี.ค.62 จำนวน 17 ราย หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 31  เม็ดเงินลงทุน เม.ย. 62 มียอดรวม 9,891 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมี.ค.62 จำนวน 907 ล้านบาท นักลงทุน​ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนมากที่สุด 12 ราย เงินลงทุนกว่า 2,197 ล้านบาท รองลงมาคือ สิงคโปร์ 5 ราย เงินลงทุน 825 ล้านบาท และจีน 4 ราน เงินลงทุน 342 ล้านบาท

ส่วนการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว เดือนเมษายน มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 38 ราย แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 18 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ 20 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,891 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุนกว่า 2,197 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 5 ราย เงินลงทุน 825 ล้านบาท และจีน 4 ราย เงินลงทุน 342 ล้านบาท

โดยการเปรียบเทียบการลงทุนรายเดือน เมื่อเปรียบเทียบการเข้ามาลงทุนของชาวต่างชาติในเดือนเมษายน กับเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนลดลง 17 ราย หรือประมาณร้อยละ 31 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 907 พันล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 8