ลุ้น ครม. 28 พ.ค. เคาะผลเจรจาปรับหลักเกณฑ์ต่อรองเอกชนท่าเรือมาบตาพุดเฟส 3 อีกรอบ

 “คณิศ” ลุ้น ครม. 28 พ.ค. เคาะผลเจรจาทบทวนปรับหลักเกณฑ์ต่อรองเอกชนท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 อีกรอบ หลัง กนอ.จ่ายคืนค่าถมทะเลให้เอกชน 720 ล้าน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27 พ.ค.2562 จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือบอร์ด EEC ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน ณ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณาผลการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ที่รัฐจะได้รับจาก โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 กับ กลุ่มกิจการร่วมค้ากัลฟ์และพีทีที แทงค์ (บริษัทกัลฟ์ เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์-บริษัทพีทีที แทงค์ เทอร์มินอล) ซึ่งยื่นประมูลเพียงรายเดียวอีกครั้ง และจะนำผลสรุปการต่อรองเสนอต่อ ครม. ในวันที่ 28 พ.ค. เพื่อพิจารณาให้จบ
หลังจากวานนี้ (21 พ.ค.2562) คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณารับหลักการ แต่ขอให้ไปทบทวนรายละเอียดบางส่วนให้เอกชนที่ชนะประมูล เป็นผู้ลงทุนถมทะเล ด้วยเงินลงทุน 10,000 ล้านบาท ซึ่งการนิคมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะเจ้าของโครงการ จะต้องทยอยคืนเงินให้เอกชน โดยเอกชนคิดดอกเบี้ยที่ 4.8% เป็นเงิน 720 ล้านบาท/ปี ตลอด 30 ปี จากอัตราอกเบี้ย 2.5% เป็นเงินเพียง 600 ล้านบาท/ปี
ส่งผลให้ผลประโยชน์ที่ กนอ. จะได้รับเหลือ 6,606 ล้านบาท ลดลง 29% หรือ 2,705 ล้านบาท จาก 9,311 ล้านบาท

“ในวันประชุม ครม. ที่ 28 พ.ค. นี้จะมีเรื่องท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 กับ รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เข้าพิจารณา ซึ่งคาดว่าเรื่องมาบตาพุดไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอีก เพราะ ครม. เห็นว่า กนอ. ยังสามารถต่อรองกับเอกชนได้ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยที่มองว่าคุ้มน่าจะอยู่ที่ 5-6% แต่อยู่ที่ว่าจะต่อรองได้เท่าไรเพื่อรัฐไม่เสียผลประโยชน์ไปมากกว่านี้”

ทั้งนี้ท่าเรือฯมาบตาพุด เฟส3 พื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดย 200 ไร่เป็นพื้นที่แก๊สเทอร์มินัล และอีก 800 ไร่เป็นพื้นที่ที่จะบริหารจัดการโดย การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่จะก่อสร้างเป็นท่าเรือ คลังสินค้า จะมีรายได้จากการจัดเก็บขายพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันที่ดินบริเวณดังกล่าวมีพื้นที่กว่า 10 ล้านบาท และเมื่อโครงการทุกอย่างแล้วเสร็จจะส่งผลให้ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ กนอ. มีรายได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน