นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า 24 พ.ค.นี้ พร้อมรับสมัครประชาชนผู้สนใจที่จะเข้าร่วมโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมเต็มที่ในการอำนวยความสะดวกผ่านช่องทางเว็บไซต์ของ กฟน. และ กฟภ. โดยได้เน้นย้ำเรื่องความรวดเร็ว และความโปร่งใสในการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ได้ประกาศเป็นการทั่วไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
โดยภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์และคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิในการยื่นเข้าโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2562 และได้เผยแพร่สู่สาธารณชนแล้วนั้น ได้มุ่งเน้นสนับสนุนให้ประชาชนผู้ใช้พลังงาน ประเภทครัวเรือนขนาดเล็กได้ผลิตไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี การผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟท๊อป) เพื่อใช้เอง และนำส่วนเกินที่เหลือจากการใช้ ไปขายต่อให้กับการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) โดยมีกำลังผลิตติดตั้งครัวเรือนละไม่เกิน 10 กิโลวัตต์ (kWp) กำหนดอัตราราคารับซื้อไฟฟ้าที่ 1.68 บาทต่อหน่วย โดยมีระยะเวลารับซื้อไฟฟ้ารวม 10 ปี
“เราคาดว่าโครงการโซลาร์ภาคประชาชน จะได้รับความสนใจจากประชาชนค่อนข้างมาก ผมจึงได้เข้ามาร่วมประชุมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อซักซ้อมการเตรียมความพร้อมในกระบวนการรับยื่น และให้นโยบายว่า ในการพิจารณาที่ต้องอำนวยความสะดวก และรวดเร็ว โปร่งใสอย่างเต็มที่”
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังที่ กกพ.ได้ออกระเบียบว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาสำหรับภาคประชาชน พ.ศ. 2562 พบว่ามีประชาชนเข้ามาสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้มอบหมายและเน้นย้ำให้ สำนักงาน กกพ.ได้ดำเนินจัดทำช่องทางการสื่อสารความรู้ ตลอดจนการให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการให้องค์ความรู้ ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจ และให้เกิดประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และเกิดผลประโยชน์จากการลงทุนให้ได้มากที่สุด
“ผมเองเห็นว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนผู้ที่สนใจควรศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะผลประโยชน์ที่จะได้รับ คำนึงถึงความคุ้มทุนที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะดูจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของครัวเรือนเป็นหลัก อยากให้มีการเปรียบเทียบกับปริมาณความต้องการและช่วงเวลาในการใช้ไฟฟ้าในบ้านของตนเองก่อน เช่น หากมีปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงกลางวันมากอยู่แล้ว ระยะเวลาในการคุ้มทุนย่อมเร็วกว่า เน้น ผลิตเองใช้เอง ก็เหมือนไม่ต้องซื้อไฟฟ้าได้ประหยัดค่าไฟด้วย”
ทางด้านนายวีรวัจน์ บัวทอง รองผู้ว่าการ กฟน. เปิดเผยว่า กฟน.พร้อมขับเคลื่อนนโยบายภาครัฐนำร่องรับซื้อโซลาร์ภาคประชาชน ปี 2562 ส่งเสริมให้ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่ติดตั้งแผงเซลล์อาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เอง สามารถขายไฟฟ้าส่วนที่เหลือใช้เข้าสู่ระบบการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายได้ โดยเปิดรับสมัครจำนวน 30 เมกะวัตต์ ในเขตจำหน่ายของ กฟน. ผ่านทางระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ https://spv.mea.or.th ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป โดยผู้สนใจจะเข้าร่วมโครงการฯ สามารถเข้าดูรายละเอียดขั้นตอนการรับสมัครได้ที่ www.mea.or.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ การไฟฟ้านครหลวงเขตทั้ง 18 เขต หรือศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA Call Center 1130 และช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ของ กฟน. ได้แก่ Facebook : การไฟฟ้านครหลวง (MEA) Line@ : @meanews Twitter : @mea_news ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ เป้าหมายโครงการ “โซลาร์ภาคประชาชน” ปี 2562 ได้กำหนดเป้าหมายปริมาณรับซื้อรวม 100 เมกกะวัตต์ แบ่งพื้นที่ดำเนินการออกเป็น การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จำนวน 30 เมกกะวัตต์ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 70 เมกกะวัตต์ โดย กฟน. ประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ สำหรับพื้นที่ดำเนินการของ กฟภ. ประกอบด้วย 74 จังหวัด ที่อยู่นอกเหนือจากพื้นที่ดำเนินการของ กฟน. โดยประชาชนสามารถเปิดรับยื่นความจำนงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เป็นต้นไป และหมดเขตรับลงทะเบียนภายในปี 2562 โดยการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายจะทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการพิจารณา ทางเว็บไซต์ของการไฟฟ้า รวมทั้งส่งผลให้ผู้สมัครได้รับทราบทางอีเมลที่ได้แจ้งไว้ ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2562 เป็นต้นไป และลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไป