บิ๊กตู่สั่งทำบัญชีความต้องการใช้ยาง-ปธ.การยางเตือนนักการเมืองอย่าปลุกระดมกดดันรบ.

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 11 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยก่อนการประชุม นางสายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ นำคณะเข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์และจำหน่ายดอกบานชื่น สัญลักษณ์ “วันเมตตาปัญญาอ่อน” จากนั้นนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย และ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เข้าพบเพื่อประชาสัมพันธ์การจัดแสดงผลงานผลิตภัณฑ์จากยางพาราและนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ภายใต้ชื่อ “Today Life’s Rubbers”

โดยนายกฯ สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำบัญชีรวบรวมความต้องการใช้ยางพาราของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อสรุปเสนอขออนุมัติงบประมาณ นำไปสนับสนุนการผลิตใช้ในประเทศ เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น พร้อมกล่าวว่า จะต้องแก้ปัญหาราคายางพาราในประเทศก่อน ขณะเดียวกันต้องประสานความร่วมมือระหว่างประเทศด้วย ซึ่งเวลานี้กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งขยายตลาดกำลังซื้อจากจีน นี่เป็นเหตุผลที่ไทยต้องคบค้าสมาคบกับทุกประเทศ อย่างประเทศจีนก็เป็นประเทศที่สั่งซื้อยางพาราจากไทยเป็นจำนวนมาก ดังนั้นทุกอย่างถือเป็นผลประโยชน์ต่างตอบแทนที่ไทยต้องได้ผลประโยชน์ด้วย

ด้านนายธีธัชกล่าวว่า วันนี้ได้รายงานสถานการณ์ราคายางพาราให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและได้มีการรายงานมาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันวันนี้ราคาน้ำยางสดอยู่ที่กิโลกรัมละ 41 บาท ซึ่งได้มีการพูดคุยกับนายกสมาคมน้ำยางสดแล้วว่าจะพยุงราคาไม่ไห้ต่ำกว่า กิโลกรัมละ 40 บาท

ขณะที่ พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานกรรมการ คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ปัจจุบันราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นกว่าในอดีต เพราะจากปี 2558 ราคายางอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งวันนี้อยู่ที่ 53 บาท เชื่อว่าชาวสวนยางอยู่ได้ โดยได้พยายามหารือกับผู้ประกอบการให้ยกราคา อย่างไรก็ตาม ชาวสวนยางเข้าใจในปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตร แต่ขอว่าฝ่ายการเมืองจะทำอะไรก็ขอให้อยู่ในกรอบ เพราะผู้ที่จะมาชุมนุมต่างมีความเข้าใจ และการกดดันรัฐบาลมากๆ ผู้ที่ได้ประโยชน์คือ ผู้กดดัน แต่ชาวสวนได้ไม่มาก แต่เชื่อว่าจะไม่มีการออกมารวมตัวเพื่อกดดันรัฐบาล เพราะมาตรการต่างๆ เริ่มเห็นผลแล้ว

 

ที่มา มติชนออนไลน์

Advertisment