มึนตัดสิทธิ์โรงสกัดขาย CPO หวั่นอุ้มชาวสวนปาล์มสะดุด

โรงงานสกัดมึนหลังมีชื่อในประกาศ แต่เมื่อเสนอขายกลับถูกตัดสิทธิ อ้างมีผลประโยชน์ร่วมทับซ้อน ขณะที่ กฟผ.ประกาศผู้ที่ผ่านเสนอขาย 8 ราย คาดเริ่มส่งมอบได้ 28 พ.ค.นี้

แหล่งข่าวผู้ประกอบการโรงงานสกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ภายหลังจากที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ประกาศรายชื่อผู้ประกอบการโรงสกัดที่สามารถยื่นข้อเสนอในการขายน้ำมันปาล์มดิบให้กับ กฟผ.เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา พบว่าในจำนวน 15 รายมีผู้ประกอบการบางรายที่มีรายชื่อและสามารถเสนอขายได้แต่ถูกตัดสิทธิ เนื่องจาก กฟผ.ให้เหตุผลว่าผู้ประกอบการหรือโรงสกัดรายนั้นมีผลประโยชน์ร่วม หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำให้ผู้ประกอบการรายนั้นหมดสิทธิยื่นเสนอขาย แต่อย่างไรก็ดี กฟผ.จะประกาศและเปิดให้ผู้ประกอบการรายนั้นได้ยื่นข้อเสนอใหม่อีกครั้ง

ทั้งนี้ จากกรณีดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการสงสัยว่า เมื่อรายชื่อของบริษัทมีในประกาศเพราะเหตุใดถึงถูกตัดสิทธิ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการที่มีโรงงานในหลายพื้นที่มีรายชื่อผู้ถือหุ้นในโรงงาน 2 แห่ง ก็ต้องถูกตัดสิทธิออกไป ส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถยื่นได้โรงงานเดียวหรือแห่งเดียว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมองว่าจะทำให้เป้าหมายที่ต้องการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายหรือมีความล่าช้า ซึ่งปัจจุบันจากดูตัวเลขน้ำมันปาล์มดิบในสต๊อกทั้งประเทศยังสูงถึงประมาณ 5 แสนตัน ขณะที่ราคาผลปาล์มอยู่ที่ กก.ละ 2.50 บาท เฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบ กก.ละ 16.50 บาท

“การดำเนินการดูดซับผลผลิตส่วนเกินอาจไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมาย หรืออาจเกิดความล่าช้า ซึ่งราคาผลปาล์มจะสูงขึ้นตามกลไกของผลผลิตกำลังลดลง และจะมีผลผลิตรอบใหม่ออกมาในเดือน ก.ค. 62 ซึ่งตอนนั้นราคาผลผลิตจะลดลงหากครั้งนี้ยังไม่สามารถดึงซัพพลายส่วนเกินออกไปได้ แม้ว่าราคาผลปาล์มสูงขึ้นจะคุ้มค่าต่อการดำเนินการหรือไม่ หรืออาจทำให้ผู้ประกอบการไม่มีสภาพคล่องในการรับซื้อ เนื่องจากปริมาณน้ำมันปาล์มไม่สามารถระบายออกไปได้ก็ส่งผลให้ไม่สามารถรับซื้อผลผลิตได้เพิ่ม”

อย่างไรก็ดี ล่าสุดนายธวัชชัย จักรไพศาล รองผู้ว่าการเชื้อเพลิง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ประกาศรายชื่อผู้ยื่นข้อเสนอขายน้ำมันปาล์มดิบที่ผ่านเกณฑ์การเสนอราคาจำนวน 15 ราย จากรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมด 149 ราย คิดเป็นปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ 45,300 ตัน และวันที่ 22 พ.ค. 2562 กฟผ.ได้ลงนามสัญญาซื้อขายแล้ว 8 ราย โดยมีกำหนดการลงนามสัญญาครบทั้ง 15 ราย ภายในวันที่ 27 พ.ค. 2562 และจะเริ่มการส่งมอบน้ำมันปาล์มดิบที่คลังน้ำมันปาล์มดิบ จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. 2562 เป็นต้นไป ส่วนการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบลอตที่เหลือ 54,700 ตันนั้น กฟผ.ออกประกาศเชิญชวนให้โรงงานสกัดแข่งขันเสนอราคาอีกครั้ง ซึ่งในวันที่ 28 พ.ค. 2562 โรงงานสกัดยื่นเสนอราคาตามปริมาณที่มีสิทธิเสนอขาย วันที่ 29 พ.ค. 2562 ประกาศรายชื่อผู้ชนะการเสนอราคา วันที่ 31 พ.ค. 2562 ลงนามสัญญาซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบต่อไป