นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย จัดสัมมนาในหัวข้อ “Geographical Indications in Thailand and in the European Union and Italy” เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการสินค้า GI ให้ความสำคัญเรื่องของคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากล เนื่องจากเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงเป็นอย่างมาก เพราะส่งผลต่อการส่งออกและมูลค่าของสินค้า อีกทั้งจะช่วยให้สินค้าสามารถขยายช่องทางการค้าได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ กรมฯยังนำผู้ประกอบการ GI ในกลุ่มสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มที่มีศักยภาพ มาร่วมจัดแสดงภายในงาน THAIFEX 2019 จำนวน 28 สินค้า อาทิ กาแฟดอยตุง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง เป็นต้น ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการเจรจาการค้า และขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ เนื่องจากภายในงานมีผู้ซื้อ จากทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้สินค้า GI มีช่องทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ปัจจุบันมีรายการสินค้า GI ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว จำนวน 123 สินค้า แบ่งเป็น GI ไทย จำนวน 107 สินค้า และ GI ของต่างประเทศ จำนวน 16 สินค้า ซึ่งกิจกรรมที่เกิดขึ้นในงานนี้จะช่วยผลักดันให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการสินค้า GI ของไทย รวมทั้งภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบถึงประโยชน์ของการได้รับความคุ้มครอง ควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพ เพื่อให้สินค้า GI ไทย สามารถยืนหยัดแข่งขันในตลาดและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคอย่างยั่งยืนต่อไป