ผงะ รพ.คิดค่ายาเพิ่ม 100 เท่า “โรงพยาบาลธงฟ้า” สะดุดเอกชนรุมต้าน

กรมการค้าภายในไล่บี้โรงพยาบาลเอกชนส่งโครงสร้างราคายา-ค่าบริการ หลังพบโรงพยาบาลร้อยละ 30 คิดค่ายา-บริการสูงเกินค่าเฉลี่ย ไล่ตั้งแต่ 300-8,000% บางแห่งบวกเพิ่มราคายาทั่วไปเข้าไปถึง 16,000% พร้อมเรียกให้เข้ามาชี้แจงราคา ส่วนโครงการโรงพยาบาลธงฟ้ายังไม่เกิด เหตุโรงพยาบาลบางส่วนยังไม่เห็นด้วย เพราะการรักษาพยาบาลเกี่ยวข้องกับคุณภาพและจริยธรรม

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวถึงความคืบหน้าจากการนำยารักษาโรค เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เข้ามาอยู่ในบัญชีสินค้าที่ต้องควบคุมราคาค่าบริการว่า กรมการค้าภายในได้ขอให้โรงพยาบาลส่ง “โครงสร้าง” รายการค่ายาทั้งราคาซื้อและราคาขายมาให้พิจารณา โดยโรงพยาบาลเอกชนทั้ง 353 แห่งได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วพบว่า โรงพยาบาลร้อยละ 30 หรือประมาณ 70 แห่งคิดราคาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค และค่อนข้างต่ำกว่าราคาค่าเฉลี่ย

ขณะที่ร้อยละ 40 ราคาค่ายาและบริการอยู่ในระดับปานกลาง หรือสูงกว่าราคาเฉลี่ยเล็กน้อย ส่วนอีกร้อยละ 30 กลับมีการตั้งราคาค่ายาและบริการสูงกว่าค่าเฉลี่ย มีตั้งแต่ร้อยละ 300 ไปจนถึงร้อยละ 8,000 และยังพบว่ามีโรงพยาบาลบางแห่งบวกเพิ่มถึงร้อยละ 16,000 ในบัญชียา 150 รายการชนิดยาทั่วไป ดังนั้นกรมการค้าภายในจึงได้ทำหนังสือแจ้งไปยังโรงพยาบาลรายดังกล่าวให้

เข้ามาชี้แจงเพื่อให้ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา

“ยอมรับว่า ในอดีตโรงพยาบาลกำหนดค่ายารวมกับค่าบริการ ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาปรับตัว แต่เมื่อประกาศ กกร.มีผลบังคับใช้แล้วก็ต้องแยกโครงสร้างราคายาโดยไม่รวมกับค่าบริการอื่น ๆ ให้ชัดเจน รวมถึงราคายาต้องเป็นธรรมกับผู้บริโภคด้วย ซึ่งหากเกิดกรณีมีผู้ป่วยร้องเรียนโรงพยาบาลต้องชี้แจงฐานคำนวณราคาได้ และหากผู้ป่วยฟ้องร้อง กรมสามารถร่วมฟ้องได้ด้วย เราจะไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยดำเนินเรื่องตามลำพัง” นายวิชัยกล่าว

ล่าสุดโรงพยาบาล 52 แห่งได้เริ่มส่งข้อมูลค่ายาเข้ามาแล้ว แต่ยังคลาดเคลื่อน จึงได้ขอให้ส่งกลับมาใหม่ภายในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะครบกำหนดสิ้นสุดแจ้งราคายาตามกฎหมาย หลังจากนั้นประชาชนจะสามารถตรวจสอบโครงสร้างราคาทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์กรมการค้าภายในได้ทันทีก่อนเข้ารับการรักษา ส่วนโครงการ “โรงพยาบาลธงฟ้า” 

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เตรียมเชิญชวนโรงพยาบาลเอกชนที่คิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลไม่แพงจนเกินไปให้มาเข้าร่วมโครงการนั้น เนื่องจากโรงพยาบาลทั้ง 353 แห่งยังไม่มีความพร้อม ขณะเดียวกันโรงพยาบาลธงฟ้าไม่มีลักษณะเหมือนโครงการสินค้าธงฟ้า เพราะมีเรื่องของการบริการ คุณภาพ จริยธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพียงโครงสร้างราคายาอย่างเดียว ดังนั้นกรมจึงขอเวลาในการพิจารณาไตร่ตรองเพื่อความรอบคอบ

อีกครั้ง “สมาคมโรงพยาบาลเอกชนยังคงไม่เห็นด้วย รวมถึงสมาชิกสมาคมยังมีข้อท้วงติงหลายประการจนเกิดกรณีฟ้องร้องให้กระทรวงพาณิชย์ยกเลิกโครงการนี้ ดังนั้นต้องพิจารณาร่วมกันทุกหน่วยงาน ยังไม่ชัดว่าจะเดินต่อไปหรือไม่” นายวิชัยกล่าว