“ศิริ” ดึงดันไม่ขอเจียดเงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคา NGV ตามข้อเรียกร้องสมาคมผู้ประกอบการ

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) เรียกร้องให้มีการทบทวนราคา NGV โดยต้องการให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนราคา ว่า นโยบายการอุดหนุนราคา NGV ไม่ควรมีต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ต่างจากอดีตซึ่งเดิมเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ราคาน้ำมันค่อนข้างแพงรัฐบาลจึงส่งเสริมการใช้ ประกอบกับขณะนั้นก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยมีปริมาณสูง แต่ปัจจุบันก๊าซฯในอ่าวไทยมีปริมาณที่ลดลงและมีแนวโน้มต้องนำเข้า ในขณะที่ราคาน้ำมันภาพรวมของโลกมีทิศทางที่ต่ำลง ดังนั้นการลอยตัวราคา NGV จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ซึ่งขณะนี้ราคา NGV ได้สะท้อนกลไกตลาดโลกเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต และขณะนี้ยังมีการอุดหนุนเฉพาะ NGV ที่ใช้ในรถสาธารณะ โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จนถึงสิ้นเดือน ก.ค. 2562 นี้

ขณะเดียวกันกรณีที่มีการอุดหนุนราคาไบโอดีเซลบี 10 และบี 20 ก็เป็นการใช้เงินจากผู้ใช้น้ำมัน แต่กรณี NGV ไม่ได้เก็บจากผู้ใช้ก๊าซฯ จึงเป็นเรื่องยากที่จะนำน้ำมันไปดูแล และถึงแม้จะดูแลได้ก็คงจะยาก เพราะการใช้บี20 สำหรับรถบรรทุกทั่วไปก็จะเหมาะสมกว่า ทั้งต้นทุนราคา ค่าความร้อน และค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร

สำหรับการส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ทั้งการใช้ผสมเป็นน้ำมันไบโอดีเซล (บี20, บี10, บี7) และการให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดูดซับไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง ส่งผลให้ราคาผลปาล์มดิบมาอยู่ที่ 3.30-3.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) จากเดือนที่แล้วอยู่ที่ประมาณ 1.80 บาทต่อกก. และ CPO ขยับจาก 16.00 บาทต่อกก. มาอยู่ที่ 19.75-20.00 บาทต่อกก.


ซึ่งเมื่อราคาปาล์มขยับขึ้นแล้ว ดังนั้น กฟผ.ไม่จำเป็นต้องซื้อ CPO ครบ 200,000 ตัน ตามมติ ครม.ที่ให้ซื้อเพิ่มในเดือน พ.ค.-มิ.ย. โดยซื้อในเดือน พ.ค.ไปแล้ว 66,250 ตัน ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 130,000-140,000 ตัน จึงเป็นปริมาณที่ กฟผ.จะเข้ามารับซื้อได้ในปีนี้ หากราคาปาล์มตกต่ำลงอีก