“พาณิชย์” เตรียมจัดเจรจาการค้าใหญ่ไทย-ญี่ปุ่น

รมว.เมติญี่ปุ่นพร้อมนำทัพเอกชน 500 รายเยือนไทย ตอกย้ำพันธมิตรเศรษฐกิจ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า นายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น จะนำคณะเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น 500 ราย เดินทางเยือนไทย เพื่อสำรวจลู่ทางการค้า การลงทุน และหารือแนวทางการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 11 – 13 กันยายน 2560 นี้ โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมจัดกิจกรรมเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายธุรกิจ ระหว่างคณะเอกชนจากญี่ปุ่น คณะญี่ปุ่นในประเทศไทย และเอกชนไทย รวมกว่า 1,200 ราย ใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ 1) ยานยนต์ 2) ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 3) เกษตร อาหาร และสุขภาพ 4) ธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรม และ 5) สถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐ

“การจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างญี่ปุ่นและไทย ซึ่งจะครบ 130 ปี ในวันที่ 26 กันยายน 2017 นี้ อีกทั้งเป็นการขยายผลจากการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ได้เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 – 8 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนอกจากกระทรวง เศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม และคณะเอกชนจากญี่ปุ่นแล้ว ฝ่ายญี่ปุ่นยังประกอบด้วยอีกหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (Keidanren) องค์การสนับสนุน SMEs แห่งประเทศญี่ปุ่น (SMRJ) และหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งญี่ปุ่น (JCCI)” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

นอกเหนือจากการเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีและการประชุมหารือทวิภาคีแล้ว ในวันที่ 12 กันยายน 2560 ณ โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาคีส์ ควีนส์ปาร์ค จะมีปาฐกถาพิเศษโดยนายฮิโรชิเกะ เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมญี่ปุ่น ปาฐกถาพิเศษโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี การนำเสนอในหัวข้อโอกาสการลงทุนในประเทศไทยโดยเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งการอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นจากภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น

ทั้งนี้หน่วยงานต่างๆ จากสองประเทศจะได้แลกเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจ MOU และหนังสือแสดงเจตจำนง MOI ระหว่างกัน ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะแลกเปลี่ยน MOU กับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือ JETRO เพื่อขยายความร่วมมือด้านการค้าการลงทุน และร่วมกันพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ แลกเปลี่ยนข้อมูล จัดกิจกรรมเจรจาการค้า ตลอดจนผลักดันการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจระหว่างภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย

อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่จัดคู่ขนาน ได้แก่ การจัดเจรจาการค้าและสร้างเครือข่ายธุรกิจ (Business Networking) ระหว่างคณะเอกชนจากญี่ปุ่นที่เดินทางมากับคณะ 500 รายดังกล่าว เอกชนญี่ปุ่นในไทย ประมาณ 300 – 500 ราย และเอกชนไทยกว่า 300 ราย รวมประมาณ 1,200 – 1,300 ราย ในอุตสาหกรรมยานยนต์ กลุ่มไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มสินค้าเกษตร อาหาร และสุขภาพ กลุ่มธุรกิจบริการด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มสถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐ

สำหรับหน่วยงานฝ่ายไทยที่ร่วมกันดำเนินการจัดกิจกรรมและต้อนรับคณะฯ จากญี่ปุ่นในครั้งนี้ ประกอบด้วย กระทรวงพาณิชย์ (กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ) กระทรวงอุตสาหกรรม (กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม) กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานเพื่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวในตอนท้ายว่า “กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่ร่วมจัดงานคาดหวังให้เกิดความร่วมมือด้านยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและญี่ปุ่น ขยายช่องทางการตลาด โอกาสทางการค้าการลงทุน ส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง Sourcing สินค้าที่สำคัญของญี่ปุ่นในอาเซียน ตลอดจนผลักดันการลงทุนของญี่ปุ่นในประเทศไทย นำไปสู่การขยายตัวทางเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจในประเทศ”

การค้าระหว่างประเทศไทย – ญี่ปุ่น ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2560 (มกราคม – กรกฎาคม) มีมูลค่ารวม 30,697.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 5.24 แบ่งเป็นไทยส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 12,589.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 8.12 สินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ ไก่แปรรูป รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรกล อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ และอุปกรณ์ ด้านการนำเข้า ไทยนำเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 18,108.21 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 3.33 สินค้านำเข้าสำคัญได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์