“บางจาก” เปิดตัวน้ำมัน B20s หลังยอดขาย B20 ทะลุ 30 ล้านลิตร ช่วยดันราคาปาล์มแตะ 4 บาท

บางจาก ยกระดับน้ำมัน B20 เป็นไฮดีเซล B20s รายแรกผ่าน 350 ปั้มทั่วประเทศราคาเดิม ค่ายรถญี่ปุ่น ยุโรป ขานรับคุณภาพหลัง B20 ยอดขายทะลุ 30 ล้านลิตร จากทั้งระบบมียอดขาย มิ.ย. แตะ 110 ล้านลิตรดันราคาปาล์มดิบขึ้นถึง 4บาท/กก.

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บางจากได้ยกระดับคุณภาพ B20 เป็นน้ำมันไฮดีเซล B20s (บี 20 เอส) จำหน่ายในปั๊มบางจาก 350 แห่งทั่วประเทศ โดยน้ำมันไฮดีเซล B20s ได้พัฒนาเติมสารเพิ่มคุณภาพเป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย เพิ่มค่าซีเทนและทำความสะอาดเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น ผ่านการทดสอบใช้งานจริงแล้วพบว่าช่วยทำความสะอาดหัวฉีดกำลังและแรงบิดเพิ่มขึ้น ส่งให้เครื่องยนต์แรงขึ้น เกิดการเผาไหม้สมบูรณ์ ประหยัดเชื้อเพลิงและประหยัดค่าใช้จ่ายจาก เบื้องต้นมีค่ายรถบรรทุกแสดงความพร้อมใช้บริการแล้ว อาทิ HINO, ISUZU, SCANIA, MAN, UD TRUCKS, TOYOYA และ VOLVO

และภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ราคาขายปลีก B20 ที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปลิตรละ 5 บาท ที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 31 ก.ค.นี้ เป็นมาตรการที่กระทรวงพลังงานใช้กระตุ้นให้เกิดการใช้ B20 มากขึ้น และช่วยเกษตรกรผู้ปลูกปาล์ม ซึ่งหากกระทรวงพลังงานจะไม่พิจารณาต่ออายุมาตรกรลดราคาขายปลีกดังกล่าว แต่ในระยะยาวผู้ค้าก็ยังคงดำเนินมาตรการลดราคา B20 ให้ถูกกว่าดีเซลทั่วไปที่ลิตรละ 3 บาทต่อไปได้

“ราคา B20 ปกติจะถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปลิตรละ 5 บาท นั่นเป็นเพราะรัฐเขาต้องการกระตุ้นให้ใช้ และเมื่อหมดมาตรการนี้แล้ว ราคา B20 ก็ยังถูกกว่าถึง 3 บาทอยู่นี่ พอการกระตุ้นมาระยะหนึ่งคนรู้ว่ามันไม่ได้เกิดปัญหากับรถเขาก็ใช้ต่อ ดังนั้นจะต่อมาตรการหรือไม่ต่อเชื่อว่าคนก็ยังเติม B20 อยู่ ราคาถูกกว่าดีเซล 3 บาทเราก็พอใจแล้ว”

ทั้งนี้ นับตั้งแต่บางจากส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 โดยได้มีการยกระดับคุณภาพน้ำมันให้กับกลุ่มอุตสาหกรรม เรือและรถขนส่งขนาดใหญ่ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุนให้ยอดการใช้ B20 เดือนพ.ค.ที่ผ่านมามีปริมาณรวมมากกว่า 70 ล้านลิตร

ตั้งเป้าหมายจะมียอดการใช้ในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นรวม 110 ล้านลิตร จากปั๊มที่จำหน่าย B20 ปัจจุบันประมาณ 1,000 แห่ง เป็นในส่วนของบางจากประมาณ 30 ล้านลิตร จาก 350 ปั๊ม โดยราคาขายปลีกหน้าปั๊มจะถูกกว่าน้ำมันดีเซลทั่วไปลิตรละ 5 บาท ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ 550 ล้านบาท ช่วยเกษตรกรและทำให้ราคาปาล์มดิบสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4 บาท/กก.

ส่วนความคืบหน้าการจำหน่าย B10 ปัจจุบันบางจากทดลองให้บริการในปั๊ม 2-3 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามประเมินผลจากผู้ใช้จริงว่ามีผลต่อเครื่องยนต์อย่างไรหรือไม่ โดยยอมรับว่าต้นทุนหน้าโรงกลั่น B10 จะสูงกว่า B7 แต่บางจากยืนยันจะไม่มีการปรับราคาขายปลีก B10 แน่นอน