ชป.วางแผนจัดการน้ำฤดูฝนภาคอีสาน / ชป.ทุ่งสัมฤทธิ์ เร่งช่วยเหลือชาวบ้านหลังฝนทิ้งช่วงนาน

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำและแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ปัจจุบัน( 27 มิ.ย. 62) สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสายหลัก ได้แก่ ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำชี และ ลุ่มน้ำมูล มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 12 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 276 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ ล่าสุดมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 3,471 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯขนาดใหญ่และขนาดกลางรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 1,661 ล้าน ลบ.ม. และมีพื้นที่ชลประทานทั้งหมดประมาณ 3,862,832 ไร่

ทั้งนี้ ได้วางแผนการใช้น้ำฤดูฝนปี 2562 โดยจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค 271 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 1,008 ล้าน ลบ.ม. อุตสาหกรรมและอื่นๆอีกประมาณ 53 ล้าน ลบ.ม. ส่วนภาคการเกษตรจัดสรรน้ำไว้ประมาณ 2,774 ล้าน ลบ.ม. สามารถสนับสนุนการเพาะปลูกพืชฤดูฝนได้ประมาณ 3,551,895 ไร่ ปัจจุบันมีการเพาะปลูกไปแล้ว 2,058,303 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 58 ของแผนฯ

ด้านนายคำรณ เตียตระกูล ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบพื้นที่การเกษตรในเขตชลประทาน ที่ใช้น้ำจากสถานีสูบน้ำ บ้านท่ามะเขือ ตำบลกระเบื้องใหญ่ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา โดยได้พบปะพูดคุยกับผู้นำชุมชน ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ และสมาชิก จำนวน 50 ราย เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากปัญหาฝนทิ้งช่วงเป็นระยะเวลานาน ประกอบกับเครื่องสูบน้ำสถานีสูบน้ำบ้านท่ามะเขือชำรุดใช้การไม่ได้ ซึ่งผู้อำนวยการโครงการฯ- ทุ่งสัมฤทธิ์ ได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้กับผู้เข้าร่วมประชุมว่า ทางโครงการฯได้เสนอแผนงานปรับปรุงเปลี่ยนเครื่องสูบน้ำ ทั้ง 2 เครื่อง เข้าบรรจุในแผนงานงบประมาณในปี 2563 แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งในเบื้องต้นได้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระยะเร่งด่วน ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง เพื่อสูบน้ำจากบริเวณสถานีสูบน้ำให้กับพื้นที่การเกษตรแล้ว และจะดำเนินการซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำของสถานีสูบน้ำบ้านท่ามะเขือ ให้ใช้ได้เป็นการชั่วคราวก่อน จนกว่าจะได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2563 จึงจะสามารถซ่อมแซมเครื่องสูบน้ำให้ใช้งานได้อย่างถาวรต่อไป

สำหรับสถานการณ์น้ำทั้งประเทศ ปัจจุบัน(28 มิ.ย. 62) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ มีปริมาณน้ำเก็บกักรวมประมาณ 37,695 ล้าน ลบ.ม. มีปริมาณน้ำใช้การได้ประมาณ 13,769 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำตลอดฤดูฝนปี 2562 จะอยู่ที่ประมาณ 31,008 ล้าน ลบ.ม. โดยแบ่งเป็นการใช้น้ำจากระบบชลประทานประมาณ 13,994 ล้าน ลบ.ม. ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 17,054 ล้าน ลบ.ม. จะใช้น้ำจากน้ำฝน

อนึ่ง จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าฤดูฝนปี 2562 ปริมาณฝนที่ตกรวมทั้งประเทศมีแนวโน้มจะอยู่ในเกณฑ์น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณร้อยละ 5 – 10 ดังนั้น เพื่อให้ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำมีเพียงพอสำหรับการใช้น้ำตลอดฤดูฝนและเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ จึงควรส่งเสริมการปลูกพืชฤดูฝน ให้ใช้น้ำฝนเป็นหลัก และใช้น้ำชลประทานเสริมกรณีที่เกิดฝนทิ้งช่วงเท่านั้น