ค้าภายใน ขยายเวลาให้โรงพยาบาลแจ้งราคายาเป็น 31 กค. นี้ย้ำราคาที่แจ้งจะถือเป็นข้อผูกมัดทันที

กรมการค้าภายในขยายเวลาให้โรงพยาบาลเอกชน 353 แห่ง แจ้งราคาซื้อขายยาเป็นวันที่ 31 ก.ค. พร้อมเลื่อนวันติด QR Code เป็น 15 ส.ค. ย้ำราคาที่แจ้งจะถือเป็นข้อผูกมัด เผยล่าสุดมีประชาชนร้องเรียนค่ายา ค่ารักษาแพงแล้วกว่า 10 ราย

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ขยายระยะเวลาให้โรงพยาบาลเอกชน 353 แห่ง แจ้งราคาซื้อขายยาในกลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิ์ทุกที่ (UCEP) และรายการยาที่มีการจำหน่ายสูงสุด รวม 3,992 รายการ มายังกรมฯ เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ก.ค.2562 จากเดิมที่กำหนดไว้วันที่ 12 ก.ค.2562 หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงรายการสินค้าและบริการในบัญชีสินค้าและบริการควบคุมใหม่ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา และล่าสุด มีโรงพยาบาลเอกชนได้จัดส่งราคาซื้อขายยามาแล้วประมาณ 20 โรงพยาบาล

ทั้งนี้ หลังจากได้ข้อมูลราคายามาครบแล้ว กรมฯ จะจัดทำราคาซื้อขายขึ้นไว้ในเว็บไซต์ของกรมฯ โดยมีรายละเอียดราคายาแต่ละชนิด ราคาของแต่ละโรงพยาบาล แล้วจัดทำเป็น QR Code เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนนำไปติดไว้ในโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยตรวจสอบได้ โดยได้เลื่อนเป็นภายในวันที่ 15 ส.ค.2562 จากเดิมวันที่ 29 ก.ค.2562

“ราคายาที่โรงพยาบาลเอกชนส่งมาให้กรมฯ ไม่ว่าจะเป็นราคาใด กรมฯ จะถือว่าเป็นราคาซื้อขายที่ผูกมัดโรงพยาบาลว่าขายในราคานี้ จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ หากผู้บริโภคเข้าไปใช้บริการแล้วเจอคิดแพงกว่านี้ หรือมีการคิดราคาไม่ตรงตามที่แจ้งเอาไว้ ก็จะมีความผิด หรือกรณีที่มีการปรับขึ้นราคา ก็ต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงราคามายังกรมฯ ก่อน แล้วกรมฯ จะนำไปปรับปรุงในบัญชีราคายาที่อยู่ในเว็บไซต์ให้เป็นปัจจุบันต่อไป”

อย่างไรก็ตาม หากโรงพยาบาลเอกชนไม่ติด QR Code เพื่อแสดงราคาจำหน่ายยา จะมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และปรับเป็นรายวันอีกวันละ 2 พันบาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังมีประชาชนร้องเรียนเรื่องราคายาและค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชนมีราคาแพงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีกว่า 10 ราย ซึ่งบางกรณี กรมฯ

ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจไปแล้ว และบางกรณีกำลังตรวจสอบว่ามีการคิดราคาแพงจริงหรือไม่ ถ้าพบว่ามีการคิดราคาแพงเกินจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป