กระทรวงอุตฯ ผนึก 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ ผุดนิคมอุตฯอาหารครบวงจร เชื่อรายใหญ่ดันเอสเอ็มอีติดปีก

นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทยในรูปแบบประชารัฐ หรือจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหารครบวงจร (World Food Valley Thailand) ภายใต้แนวคิดเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศโดยร่วมมือกับเอกชนรายใหญ่ ว่า ปัจจุบันกระทรวง ลงนามกับบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหาร ไปแล้ว 1 แห่ง ที่ จ.อ่างทอง เนื้อที่ 1.3 พันไร่

และเร็วๆ นี้ มีแผนที่จะลงนามร่วมกับ บริษัท น้ำตาลราชบุรี จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมอาหาร ที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอาหารที่ต่อยอดมาจากอ้อย และร่วมกับ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) จัดตั้งฟู้ดวัลเลย์ ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

“การพัฒนาเอสเอ็มอีให้เติบโตขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ โดยผู้ประกอบการรายใหญ่สามารถเป็นพี่เลี้ยงสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยได้ โมเดลนี้จะเริ่มจากอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหาร โดยผู้ประกอบการที่เข้าไปลงทุนในโครงการ World Food Valley Thailand จะได้ประโยชน์จากการใช้วัตถุดิบในพื้นที่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ และจะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมจากมาตรการส่งเสริมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และผู้เชี่ยวชาญที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และจะมีสิทธิพิเศษอื่นๆอีก ซึ่งแพ็กเกจต่างๆ เหล่านี้อยู่ระหว่างการพิจารณาอัตราที่เหมาะสม คาดว่าจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือนก.ย.-ต.ค.นี้”นายสมชาย กล่าว

ด้านนายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงงานอุตสาหกรรมอาหารประมาณ 1.1 แสนราย ในจำนวนนี้เป็นเอสเอ็มอีถึง 99.5% ขณะที่เป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่เพียง 0.5% หรือประมาณ 600 ราย มีสัดส่วนมูลค่าการผลิตคิดเป็น 65% ของทั้งอุตสาหกรรมอาหาร เราต้องเพิ่มการแปรรูปวัตถุดิบการเกษตรให้มากขึ้น และคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เช่น การแปรรูปข้าวจากเดิมที่ส่งออกเป็นข้าวสารทั้งหมด ตั้งเป้าเพิ่มการแปรรูปข้าวอย่างน้อย 30%

สำหรับยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมอาหารแผนงานหลักๆ จะเป็นการเพิ่มนักรบพันธุ์ใหม่หรือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายใหม่ที่มีความเข้มแข็งและมีเทคโนโลยีให้ได้ 3.5 หมื่นรายภายใน 20 ปี หรือเพิ่มปีละ 1,750 ราย และยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลาง เพื่อขยายฐานการผลิตให้กว้างขึ้น

 

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์