นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และโฆษกคณะกรรมการเปิดเผยว่า ประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติการค้าที่เป็นไม่ธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย พ.ศ. 2562 มีผลบังคับใช้แล้ว เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562
โดยได้มีการปรับแก้ไขจากร่างเดิมหลังจากผ่านกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทางเว็บไซต์ www.otcc.or.th ที่จัดทำตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ถึง วันที่ 28 พฤษภาคม 2562
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ จุดประสงค์หลักของการจัดทำไกด์ไลน์ในธุรกิจค้าส่งค้าปลีกฉบับนี้คือ เพื่อต้องการจัดระบบการค้าที่ดีให้มีธรรมาภิบาล และสร้างบรรทัดฐานการปฏิบัติการค้าที่ชัดเจน ถูกต้อง อันจะเป็นการยกระดับมาตรฐานทางการค้าระหว่าง ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ หรือผู้จำหน่าย กับผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ซึ่งจะเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาระบบการค้าในธุรกิจ ค้าส่งค้าปลีกให้มีความเข้มแข็งและเกิดประสิทธิภาพต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม
สำหรับพฤติกรรมที่ห้ามกระทำในการปฏิบัติทางการค้าของผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ซึ่งอาจเข้าข่าย
เป็นการกระทำที่ส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายอย่างไม่เป็นธรรม
แนวทางการพิจารณามี ดังนี้
1. การกำหนดราคารับซื้อหรือกดราคารับซื้อต่ำกว่าราคารับซื้อปกติ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
2. การเรียกรับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ไม่เป็นธรรม
3. การคืนสินค้าที่ไม่เป็นธรรม
4. การบังคับให้ยอมรับสัญญาการฝากขายสินค้า ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม
5. การบังคับให้ซื้อหรือให้จ่ายค่าบริการ (Coercion to Purchase) อย่างไม่เป็นธรรม
6. การให้พนักงานของผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายปฏิบัติงานอย่างไม่เป็นธรรม
7. การปฏิเสธการรับสินค้าที่สั่งซื้อหรือผลิตพิเศษเป็นการเฉพาะของผู้สั่งผลิต (Private Brand) หรือเป็นตราเฉพาะของผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีก (House Brand) อย่างไม่เป็นธรรม
8. การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมอื่น ๆ เช่น การประวิงเวลาจ่ายค่าสินค้า ลดปริมาณการสั่งซื้อสินค้า การถอดสินค้าออกจากชั้นวางสินค้า (Delisting) เป็นต้น
นายสันติชัยฯ กล่าวอีกว่า การออกประกาศฉบับนี้ ถือเป็นการเน้นย้ำเจตนารมณ์ของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) ในการกำกับดูแลการประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องโดยตรงควรศึกษาแนวทางการพิจารณาการปฏิบัติการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับผู้ผลิต หรือผู้จำหน่าย ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อป้องกันไม่เกิดการฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งมีโทษปรับทางปกครองในอัตราไม่เกิน 10% ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด
ทั้งนี้ สามารถดูรายละเอียดของประกาศฉบับเต็มได้ที่ www.otcc.or.th