“หอการค้าไทย” คาดส่งออกปี’62 ติดลบ 0.64% ครั้งแรกรอบ 4 ปี พิษสงครามการค้า ถล่มเศรษฐกิจโลกหด-เงินบาทแข็ง-EVFTA แนะรัฐเร่งเสริมแกร่งตลาดรอง โรดโชว์สินค้าไทย
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 2562 และการส่งออกไทยครึ่งหลังของปี 2562 โดยคาดว่าการส่งออกปี 2562 จะมีมูลค่า 251,338 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือหดตัว -0.64% หรืออยู่ในกรอบ -0.13% ถึง -1.32% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี แม้ว่าการส่งออกในครึ่งหลังของปี 2562 มีมูลค่า 128,367 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 1.6% หรืออยู่ในกรอบ 0.3 ถึง 2.7%
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จากทิศทางเศรษฐกิจโลกปี 2562 ที่มีแนวโน้มชะลอตัว โดยคาดการณ์ว่ามีโอกาสขยายตัวได้ดีที่สุด 3.3% หรือกรณีที่แย่ที่สุด 3.0% จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ยังยืดเยื้อ ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง คาดว่าจะอยู่ที่ 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ โดยเงินบาทลดลง 1.5% มูลค่าเงินที่หายไปประมาณ 39,232 ล้านบาท หรือกรณีดีที่สุด บาทอยู่ที่ 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐ หรือลดลง 0.6% มูลค่าเงินที่หายไป 15,530 ล้านบาท ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐที่กำลังจะประชุมในวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ มีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25-0.5% เช่นเดียวกับหลายประเทศในเอเชียก็มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วย ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบดูไบ อยู่ระหว่าง 50-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และตลาดจีนลดการนำเข้าสินค้าจากโลกและไทย
พร้อมกันนี้ ประเด็นที่อาจส่งผลกระทบต้องติดตามผลจากข้อตกลงการเปิดเขตการค้าเสรีอียู-เวียดนาม หรือ EVFTA ที่บังคับใช้เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยในครึ่งหลังปี 2562 ในสินค้าเครื่องนุ่งห่ม สินค้าเกษตร เช่น ข้าว ผลไม้ ตลอดจนความไม่แน่นอนของสถานการณ์ Brexit ข้อพิพาทญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ ความขัดแย้งอิหร่าน-สหรัฐ-อังกฤษ และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำกรณีที่ปรับขึ้น 400 บาทต่อวัน จะทำให้ไทยมีค่าแรงสูงเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เท่ากับว่าค่าจ้างเพิ่มขึ้น 30% กระทบต่อการส่งออกลดไป 1.8% หรือมูลค่าประมาณ 4,524 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นต้นทุน ราคาที่สูงขึ้น คาดว่าจะเป็นผลกระทบต่อภาพการส่งออกของไทย
อย่างไรก็ตาม หากเทียบการส่งออกของไทยกับการส่งออกประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่า ญี่ปุ่น ติดลบ 6.2% เกาหลีเหนือ ติดลบ 7.4% สิงคโปร์ ติดลบ 3.5% สหรัฐ ติดลบ 0.1% เป็นต้น ทั้งนี้ การส่งออกส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ยืดเยื้อส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
“เหตุผลที่คาดการณ์ว่าส่งออกครึ่งปีหลังจะขยายตัว 1.6% มาจากการส่งเสริมการส่งออกจากภาครัฐ ขณะที่ตลาดส่งออกบางประเทศยังขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะตลาดรองที่ไม่ใช่สหรัฐและจีน เช่น อินเดีย อาเซียน ยังคงขยายตัวได้ดี แต่หากต้องการให้การส่งออกของไทยปี 2562 ขยายตัว 0% ครึ่งปีหลังต้องส่งออกแต่ละเดือนให้ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 2.9% หรือมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 21,664 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้จะลำบาก รัฐบาลใหม่จะต้องเร่งดำเนินการผลักดันการส่งออกไปตลาดใหม่ ๆ เช่น อินเดีย แอฟริกา เอเชียกลาง เป็นต้น พร้อมจัดกิจกรรมชวนช็อป ชิม ในประเทศต่าง ๆ ด้วย”