อย่าวิตกขึ้นภาษีความหวาน “สอน.” ชี้ระยะยาวอุตฯอ้อยน้ำตาล ไปสู่ Bio เพิ่มมูลค่าสูงกว่า

จากกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องของผลกระทบจากการขึ้นภาษีความหวาน อาจทำให้ภาคเอกชนหลายรายเปลี่ยนสูตรการผลิตสินค้า โดยใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งในอนาคตจะทำให้ความต้องการอ้อยที่นำมาใช้ผลิตน้ำตาลลดลง หวั่นส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรา

นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ชี้แจงว่า หากพิจารณาจากปริมาณการบริโภคน้ำตาลทรายภาในประเทศตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งมีปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 2.6 ล้านตัน ปี 2561 มีปริมาณการบริโภคอยู่ที่ 2.5 ล้านตัน และในปี 2562 จนถึงปัจจุบัน มีการบริโภคน้ำตาลทรายไปแล้ว (ตั้งแต่เดือนมกราคม – เดือนกรกฎาคม) จำนวน 1.46 ล้านตัน และไทยคาดว่าจะมีปริมาณการบริโภคในปีนี้ประมาณ 2.6 ล้านตัน

จะเห็นได้ว่าจากการการบริโภคน้ำตาลทราย 3 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณใกล้เคียงกัน ซึ่งการบริโภคน้ำตาลทรายภายในประเทศจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือผู้บริโภคโดยตรงและผู้บริโภคโดยอ้อม
โดยปริมาณการจำหน่ายน้ำตาลให้กับผู้บริโภคโดยอ้อม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 มีปริมาณการจำหน่ายอยู่ที่ 5.8 แสนตัน และปริมาณการจำหน่ายในปี 2562 อยู่ที่ 5.7 แสนตัน จะเห็นได้ว่ามีปริมาณใกล้เคียงกันโดยลดลงราว 10,000 ตัน

และจากสถานการณ์อ้อยและน้ำตาลของไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า มีการขยายตัวของพื้นที่ ปลูกอ้อยซึ่งมีปริมาณอ้อยเข้าหีบและผลผลิตน้ำตาลสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 12 – 14 % ในขณะที่ ปริมาณการบริโภคน้ำตาลในประเทศและการส่งออกน้ำตาลมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างคงที่ ประมาณ 5 – 6% ต่อปี ส่งผลให้ปริมาณสต็อกน้ำตาลของไทยเพิ่มสูงขึ้น

ประกอบกับภาวะราคาอ้อยและราคาน้ำตาลในตลาดโลกยังทรงตัว อยู่ในระดับต่ำ ยิ่งเป็นแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทย และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของราคาอ้อย ที่ตกต่ำ ซึ่งการขึ้นภาษีความหวานอาจเป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้น

ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคน้ำตาล โดยในปัจจุบันกระแสนิยมการบริโภคน้ำตาลของคนไทยที่ให้ความสนใจกับมารักษาสุขภาพลดการบริโภคน้ำตาลลง ตามกระแสนิยมสำหรับปัจจุบันการนำอ้อยและผลพลอยได้จากการผลิตน้ำตาลไปต่อยอดในการผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพซึ่งมีมูลค่าสูง ถือเป็นทางออกและการเพิ่มมูลค่าและเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลที่ยั่งยืน

ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย รวมถึงอุตสาหกรรมชีวภาพอย่างต่อเนื่อง และดูแลระบบการแบ่งปันผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลให้เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายต่อไป