ทียูไม่หวั่นค่าเงินทุบยอดขาย Q2 หด 4.6% เตรียมจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้น

ทียูไม่หวั่นค่าเงินทุบยอดขายไตรมาส 2/62 หด 4.6% เหลือ 32,214 ล้านบาท ยันจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้น หลังกำไรขั้นต้นไตรมาส 2 โต 13.1% มูลค่า 5,364 ล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เพิ่มมูลค่า เร่งปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตราทำกำไรสูง

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2562 มีกำไรขั้นต้นเพิ่มขี้น 13.1% จากกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงทำผลงานได้ดี

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ยอดขายไตรมาสที่ 2 มูลค่า 32,214 ล้านบาท ลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ค่าเงินสกุลยูโรอ่อนตัวลง และราคาวัตถุดิบที่ลดลง อย่างไรก็ดีด้านปริมาณการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 5,364 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.1% ส่งผลให้กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่ายอยู่ที่ 15.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสามารถจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท ต่อหุ้น

ในส่วนของยอดขายไทยยูเนี่ยนในไตรมาส 2 ปี 2562 แยกรายธุรกิจ พบว่า ธุรกิจอาหารทะเลแปรรูปมียอดขาย 14,031 ล้านบาท ลดลง 14.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งและแช่เย็น13,435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% แต่ด้านปริมาณการเติบโตเพิ่มขึ้น 10 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ของปีก่อนหน้า ขณะที่ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงและผลิตภัณฑ์ 4,747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.7% ด้านปริมาณการขายเติบโต 5.9%

สำหรับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 ยอดขายในอเมริกาเหนือ สัดส่วน 39% ของยอดขายรวมทั้งหมด ขณะที่ตลาดยุโรป 29% ตลาดประเทศไทยมีสัดส่วน 12% และยอดขายตลาดอื่นๆ คิดเป็น 19%

“ไทยยูเนี่ยนยังคงให้ความสำคัญในเรื่องความสามารถในการทำกำไร ภาพรวมผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 นี้เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจในสภาวะที่มีความท้าทายด้วยแล้ว เรายังมองถึงอนาคต โดยไทยยูเนี่ยนได้นำนวัตกรรมมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดต่างๆ ต่อไป ซึ่งเราคาดหวังว่าจะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีธุรกิจของเราเติบโตอย่างยั่งยืน”

นายยอร์ก ไอร์เล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินกลุ่มบริษัท กล่าวว่า ในระหว่างไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะซี ในเครือของไทยยูเนี่ยน ได้ตกลงระงับข้อพิพาทกับผู้ฟ้องคดีส่วนใหญ่ในคดีการป้องกันการผูกขาดในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเงินจำนวน 1,402 ล้านบาทหลังจากหักภาษีแล้ว โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่ายจากรายการพิเศษในกรณีดังกล่าว บริษัทได้บันทึกกำไรสุทธิเป็นเงินจำนวน 1,513 ล้านบาท

“เราเปิดเผยสถานะล่าสุดของคดีดังกล่าว เนื่องจาก บริษัท ชิคเก้น ออฟ เดอะซี ได้เตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบทางการเงินใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น” นายยอร์กกล่าว

อย่างไรก็ตาม ไทยยูเนี่ยนยังคงมุ่งมั่นพัฒนาในด้านนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยน หรือ Global Innovation Center (GIC) ณ อาคารเอส เอ็มทาวเวอร์ อย่างเป็นทางการ โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเป็นประธานในพิธีเปิด โดยศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร และมีนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยกว่า 160 คน

ไทยยูเนี่ยนยังได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนในไตรมาสที่ 2 นี้ด้วย โดยมีเนื้อหารายละเอียดความคืบหน้าต่างๆ ของบริษัทในปี 2561 และผลงานที่ดำเนินตามเป้าหมายและดัชนีชี้วัดการทำงานที่ระบุไว้ตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของบริษัท หรือ SeaChange® รายงานความยั่งยืนฉบับที่ 6 นี้ยังแสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นและการวัดผลนั้นช่วยให้บริษัทกระตุ้นให้อุตสาหกรรมโดยรวมเกิดการพัฒนาอย่างมีนัยยะ รายงานความยั่งยืน

ในระหว่างไตรมาสที่ 2 ปี 2562 นี้ ไทยยูเนี่ยนได้รับรางวัลต่างๆ ทั้งด้านการบริหารธุรกิจและความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นรางวัล ซีอีโอยอดเยี่ยม และบริษัทที่มีผลงานนักลงทุนสัมพันธ์ยอดเยี่ยม จาก Asian Excellence Awards 2019 บริษัทยังได้รับรางวัลบริษัทที่มีการบริหารจัดการยอดเยี่ยม จาก นิตยสาร Asiamoney โดยพิจารณาจากบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีผลงานยอดเยี่ยมในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้รับรางวัล Seafood Champion ในฐานะที่มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความยั่งยืน ในงานประชุมด้านอาหารทะเล SeaWeb ที่กรุงเทพมหานคร และยังได้รับรางวัลเหรียญทองแดงผู้นำบุคคลแห่งปีในงาน Global Good Awards ท้ายสุด แบรนด์ John West ซี่งเป็นแบรนด์ของไทยยูเนี่ยนได้รับรางวัลชนะเลิศแบรนด์ผลิตภัณฑ์อาหารกระป๋อง จากสำนักงานคณะกรรมการรับรองมาตรฐานการประมง (MSC) ประจำปี 2562 ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นปีที่สามติดต่อกัน และ ผลิตภัณฑ์อินฟิวชั่น ปลาทูน่าในน้ำมันมะกอกผสมโหระพา แบรนด์ ชิคเก้น ออฟ เดอะซี ได้รับรางวัล PEOPLE Food Awards ปี 2562: ผลิตภัณฑ์ในซูเปอร์มาร์เก็ตยอดเยี่ยมแห่งปี ประเภทปลาทูน่า