อัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ทุนไทยปักธง “Thai Mart Bahrain”

แม้ว่าระดับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะปรับเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อรายได้การขายน้ำมันบ้าง แต่กลุ่มตลาดตะวันออกกลาง 15 ประเทศยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ถือครองส่วนแบ่งตลาดส่งออก 3.3% ในปีนี้กระทรวงพาณิชย์ได้วางเป้าหมายส่งออกไปยังตะวันออกกลางว่าจะขยายตัว 2% ถือว่ายังเป็นตลาดแห่งความหวัง “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “นายอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่น จำกัด ผู้นำการจัดการแสดงสินค้าในภูมิภาคตะวันออกกลางแอฟริกาเหนือ (MENA) ทุนไทยที่กำลังเปิดโปรเจ็กต์ศูนย์การค้า “Thai Mart Bahrain” เทียบชั้น “ดราก้อนซิตี้” ของจีน

จุดเริ่มต้น Thai Mart Bahrain

บริษัทร่วมมือกับ Diyar AI Muharraq พันธมิตรจากบาห์เรน ผู้ที่ประสบความสำเร็จจากโครงการ Dragon City การร่วมมือครั้งนี้เป็นการลงทุนร่วม 50 : 50 เพื่อลงทุนก่อสร้างศูนย์การค้าบนพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุน 1,500 ล้านบาท เป้าหมายเป็นศูนย์รวมการค้าขนาดใหญ่

จำหน่ายสินค้าไทยโดยเฉพาะให้กับผู้บริโภคในตะวันออกกลาง ทั้งในลักษณะขายปลีกและขายส่งเพื่อการจ่ายออกไปสู่ตลาดดังกล่าวโดยเฉพาะซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีประชากร 34 ล้านคน มีรายได้ต่อหัว 25,400 เหรียญสหรัฐ

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันไทยเข้าไปทำตลาดประเทศดังกล่าวน้อยมาก เนื่องจากยังมีข้อจำกัดในกฎระเบียบทางการค้า และความสัมพันธ์ทางการทูต การลงทุนครั้งนี้จึงเป็นการบุกตลาดดังกล่าวเป็นเป้าหมายหลักก็ว่าได้

เหตุที่เลือกบาห์เรน เพราะเป็นประตูสู่การกระจายการค้าไปในตะวันออกกลางได้ง่าย ต่อปีมีนักท่องเที่ยวเข้ามาในบาห์เรนเป็นจำนวนมาก และไทยกับบาห์เรนมีความสัมพันธ์อันดีมายาวนานด้วย

แผนดำเนินการ

คอนเซ็ปต์ของ Thai Mart Bahrain จะเป็นช็อปปิ้งมอลล์ จะมีช่องทางในการซื้อ-ขายสินค้า หรือการกระจายสินค้าเข้าไปในตลาดต่าง ๆ ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะเอสเอ็มอี โดยอาศัยประสบการณ์การทำธุรกิจมากกว่า 15 ปี

เฟสแรกจะเปิดต้นเดือนธันวาคม 2562 พื้นที่ 6,700 ตารางเมตร งบฯลงทุน 700 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้าจองพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้าไปแล้ว 40% ของพื้นที่เฟสแรก ขณะที่เฟสที่เหลือนั้นบริษัทก็จะทยอยก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2563 และเมื่อเฟสแรกเปิดอย่างเป็นทางการแล้วจะโรดโชว์ไปยังหัวเมืองสำคัญต่าง ๆ

ภายในศูนย์การค้าแห่งนี้แบ่งโซนสินค้าไว้ 4 กลุ่ม คือ 1.โซนศูนย์รวมอาหารนานาชาติ และรวมร้านคาเฟ่ที่นิยมของผู้บริโภคตะวันออกกลางด้วย 2.โซนอาหารแปรรูป สินค้าสมุนไพร สินค้านวัตกรรม 3.โซนธุรกิจบริการด้านสุขภาพ ความงาม และ 4.โซนลานกิจกรรม ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีได้มีโอกาสสร้างตลาดและหาคู่ค้า

สินค้า-บริการที่นิยม

สินค้าที่ได้รับความนิยมของผู้บริโภคตะวันออกกลาง เช่น อาหารแปรรูป ผลไม้ สมุนไพร ผลิตภัณฑ์จากยางพารา ธุรกิจบริการโดยเฉพาะศูนย์ให้บริการด้านสุขภาพ ความงาม และขณะนี้บริษัทได้หารือกับโรงพยาบาลหลายแห่งได้ให้ความสนใจ เช่น โรงพยาบาลพญาไท โรงพยาบาลเปาโล แม้กระทั่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ให้ความสนใจลงทุนกิจกรรมทางการแพทย์แผนไทย ธุรกิจบริการซาลอนก็สนใจ และยังมีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เข้าไปลงทุนเปิดร้านจำหน่ายสินค้านวัตกรรมรวมถึงให้คำปรึกษาด้านการศึกษา สมุนไพรตราเฌอเอม ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว จะเข้าไปลงทุน

นอกจากนี้ บริษัทยังมีเป้าหมายจะจัดให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางการซื้อขายไม้กฤษณา เพราะไทยส่งออกไม้กฤษณามาตะวันออกกลางต่อปีก็หลายล้านบาท หากเราเป็นศูนย์กลางในการค้าจะสร้างรายได้ให้กับประเทศได้มากขึ้น รวมไปถึงสินค้าอื่นด้วย

โอกาสการลงทุนในบาห์เรน

ข้อดีที่จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้าไปลงทุน เพราะบาห์เรนเปิดโอกาสให้สามารถลงทุนเป็นเจ้าของได้ 100% รวมทั้งมีสิทธิในการว่าจ้างพนักงาน สามารถบริการธุรกิจตัดสินใจได้เต็มที่ นอกจากนี้ ทางธนาคารของบาห์เรนยังอำนวยความสะดวกทางการลงทุน รวมไปถึงการโอนเงินข้ามประเทศก็มั่นใจได้เต็มที่

และที่สำคัญการลงทุนเปิดร้านใน Thai Mart Bahrain จะมีต้นทุนถูกกว่าการนำสินค้าไปวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น ซึ่งจะมีต้นทุนสูงกว่าและอาจต้องใช้เวลา จึงเหมาะกับเอสเอ็มอี และต้องการให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดในการเปิดตลาดในตะวันออกกลาง และเป็นการขยายตลาดใหม่เพื่อทดแทนตลาดเดิมตามนโยบายรัฐบาล