นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดตัวโครงการ “จัดทัพโคนมไทย บุกตลาดต่างประเทศด้วยเอฟทีเอ” และพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมแปรรูปของไทย กับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า การลงนามใน MOU ครั้งนี้ เป็นการช่วยเตรียมความพร้อมให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ขยายโอกาสการส่งออกให้กับนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย และยังเป็นการช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์นมโคในภูมิภาค ซึ่งจะส่งผลทำให้อุตสาหกรรมสินค้าโคนมไทยมีศักยภาพแข่งขันได้ในตลาดโลก
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
“การช่วยผลักดันให้สินค้าเกษตรของไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพราะเกษตรกรถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากช่วยสร้างความเข้มแข็ง ช่วยสร้างโอกาสให้กับเกษตรกรได้ ก็จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจฐานรากขยายตัวได้ ส่วนการนำร่องที่อุตสาหกรรมโคนม เพราะเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเข้มแข็งและมีศักยภาพ แต่ยังขาดโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์จึงได้เข้ามาช่วยเตรียมความพร้อม และผลักดันให้ใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอในการทำตลาดต่างประเทศ และจากนี้จะมีการขยายไปยังสินค้าเกษตรรายการอื่นๆ ต่อไป”
ทั้งนี้ ในปัจจุบันประเทศคู่เจรจาเอฟทีเอของไทยหลายประเทศ เช่น อาเซียนและจีน ได้ยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์นมโค อาทิ นมพร้อมดื่ม โยเกิร์ต และเนย ที่ส่งออกจากไทยแล้ว และที่ผ่านมา ไทยมีการส่งออกผลิตภัณฑ์นมหลายชนิด เช่น นมพร้อมดื่ม นมเปรี้ยว โยเกิร์ต เนย นมข้นหวาน เป็นต้น ไปยังตลาดอาเซียนและจีนได้แล้ว โดยในปี 2561 มีมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์นมของไทย 480 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17.5%
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯ ได้ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิคัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในการผลิตสินค้านมโคแปรรูปประเภทต่างๆ เช่น โยเกิร์ต นมยูเอชที นมสดพาสเจอร์ไรส์ ไอศกรีม เนยแข็ง นมอัดเม็ด เป็นต้น จำนวน 10 ราย จากผู้สมัคร 54 ราย เข้าร่วมโครงการ เพื่อเข้ารับการอบรมเชิงลึก ในการพัฒนาศักยภาพการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และจะมีการชี้ช่องทางการใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอในการขยายตลาดไปต่างประเทศ
“เมื่ออบรมจบแล้ว จะพาไปดูงานจริง ทำตลาดกันจริง โดยจะพาไปเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า สำรวจตลาดค้าปลีก จับคู่ธุรกิจและสร้างเครือข่ายพันธมิตรกับผู้ซื้อ ผู้นำเข้าในอาเซียน กำหนดไปที่สิงคโปร์ เพราะเป็นตลาดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ประชาชนนิยมบริโภคสินค้าที่หลากหลาย และนิยมสินค้าอาหารพรีเมี่ยม จึงเป็นโอกาสสำหรับนมและผลิตภัณฑ์นมของไทย”