จุรินทร์” ถกวอร์รูมเร่งกู้ตลาดส่งออก’ข้าว-มันสำปะหลัง’ คู่ขนานประกันรายได้

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนได้เชิญสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมผู้ค้ามันสำปะหลัง เพื่อรวมกันหารือในการเร่งรัดในการส่งออกตามที่คณะทำงานติดตามสถานการณ์ส่งออก (วอร์รูม) ร่วมกับภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามสถานการณ์ส่งออกเป็นรายสินค้า เป้าหมายเพื่อให้ตัวเลขการส่งออกเป็นไปในทิศทางที่ดีที่สุดที่จะทำได้ เพราะปัจจุบันตัวเลขการส่งออกลดลง จากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาสินค้าเกษตรไทยสูงขึ้น จึงสูญเสียตลาดบางส่วนให้กับคู่แข่ง จึงต้องเร่งดำเนินการ เพื่อผลักดันให้การส่งออกกลับมาเพิ่มขึ้น

สำหรับสินค้าข้าวที่หารือนอกจากการเดินหน้าตามนโยบายประกันรายได้ที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในการพิจารณาพร้อมงบประมาณ 21,000 ล้านบาท การเดินหน้าผลักดันการส่งออกก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ต้องเร่งรัดในการเดินหน้า ตลาดเป้าหมายระยะสั้น เร่งผลักดันตลาด อิรัก ซึ่งเป็นตลาดเดิมที่เคยนำเข้าข้าวจากไทยปริมาณมาก แต่ไทยเสียตลาดนี้เพราะผู้ส่งออกไทยส่งออกข้าวไม่มีคุณภาพ ทำให้อิรักเสียความมั่นใจในการนำเข้าข้าวไทยจึงยกเลิกนำเข้าไทยจนถึงปัจจุบัน

ดังนั้น จึงต้องเร่งฟื้นฟูและเร่งสร้างความสัมพันธ์ซึ่งต้องร่วมมือภาครัฐและเอกชน โดยมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศไปฟื้นฟูความสัมพันธ์ และเร่งรัดการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งในเบื้องต้น ได้รับรายงานว่าอิรักมีความสนใจจะนำเข้าข้าวจากไทยอีกครั้ง และเมื่อมีความชัดเจน ตนจะนำคณะเดินทางไปเจรจาต่อไป

นอกจากนี้ ตลาดจีน ไทยมีการทำสัญญาซื้อข้าวไทย จีทูจีกับไทย 1 ล้านตันปัจจุบันยังคงเหลือส่งมอบ 3 แสนตัน เบื้องต้นจะเร่งรัดเจรจาให้มีการนำเข้าพร้อมกับขอให้จีนนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยเพิ่มขึ้น จากปกติที่นำเข้าข้าวขาวเป็นส่วนใหญ่ ตลาดฟิลิปปินส์ จากที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้เปลี่ยนรูปแบบการนำเข้าจากเดิมที่กำหนดโควตานำเข้า โดยเปิดให้เอกชนนำเข้ากระทรวงพาณิชย์เห็นว่าอาจจะเป็นตัวกลางจัดให้ผู้นำเข้าฟิลิปปินส์ได้พบปะกับผู้ส่งออกข้าวไทย เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อจากไทย รวมถึงญี่ปุ่น ที่ไทยจะต้องเจรจาให้เพิ่มโควตาการนำเข้าจากไทยด้วย

สำหรับสินค้ามันสำปะหลัง ปัจจุบันมีปัญหาเรื่องโรคใบด่าง ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่และหากในอนาคตถ้าสกัดการระบาดไม่ได้ก็จะได้รับลผลกระทบมากขึ้น โดยล่าสุดพบการระบาดใน 9 จังหวัด ซึ่งจะมีการหามาตรการจำกัดการระบาดของโรค ไม่ให้ออกนอก 9 จังหวัด พร้อมกัน สนับสนุนท่อนพันธุ์มันให้กับเกษตรกร และคาดว่า สัปดาห์นี้ จะมีมาตรการที่ชัดเจนในการแก้ปัญหาต่อไป ส่วนตลาดส่งออกมันสำปะหลังของไทย จะเร่งรัดขยายตลาดจีนให้มากขึ้น โดยเฉพาะจีนตอนใต้ ซึ่งภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ จะมีคำตอบว่าจะมีแผนในการทำตลาดยังไง


ส่วนอินเดีย ซึ่งพบว่ามีศักยภาพที่จะขยายตลาดได้อีกมาก โดยเฉพาะแป้งมันที่จะนำไปใช้ทำอาหารและซอสปรุงรส ขณะที่ ตลาดใหม่อย่างตุรกี และนิวซีแลนด์ ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีการส่งออกไป กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะขยายตลาดนี้ โดยจะทำความเข้าใจในการนำไปใช้ ซึ่งจะมีการนัดให้ผู้นำเข้าพบปะกับผู้ส่งออก เพื่อขยายโอกาสทางการตลาดต่อไป