นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า การจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนกรกฎาคม 2562 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ มีจำนวน 6,459 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 5,586 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 873 ราย คิดเป็น 16% และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 5,964 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 495 ราย คิดเป็น 8% โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร
สำหรับมูลค่าทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ ในเดือนกรกฎาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 22,866 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 15,147 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 7,719 ล้านบาท คิดเป็น 51% และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 26,354 ล้านบาท ลดลงจำนวน 3,488 ล้านบาท คิดเป็น 13% อย่างไรก็ดี การจดทะเบียนธุรกิจจัดตั้งใหม่ 7 เดือน (ม.ค. – ก.ค. 62) มีจำนวน 44,681 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 43,512 ราย โดยเพิ่มขึ้น จำนวน 1,169 ราย คิดเป็น 3% สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่สะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ค. 62 มีจำนวน 140,622 ล้านบาท ลดลง 28,604 ล้านบาท คิดเป็น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 169,226 ล้านบาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
ขณะที่ ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกรกฎาคม 2562 มีจำนวน 1,594 ราย เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 1,264 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 330 ราย คิดเป็น 26% และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 1,688 ราย ลดลงจำนวน 94 ราย คิดเป็น 6% ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ
สำหรับมูลค่าทุนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ในเดือนกรกฎาคม 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 8,279 ล้านบาท เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน 2562 จำนวน 4,973 ล้านบาท ลดลงจำนวน 3,306 ล้านบาท คิดเป็น 66% และเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2561 จำนวน 6,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,997 ล้านบาท คิดเป็น 32% ทั้งนี้ ธุรกิจเลิกระยะ 7 เดือน (ม.ค. – ก.ค. 62) มีจำนวน 8,261 ราย เพิ่มขึ้นจำนวน 284 ราย คิดเป็น 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 7,977 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนธุรกิจเลิกสะสมตั้งแต่เดือน ม.ค. – ก.ค. 62 มีจำนวน 30,615 ล้านบาท ลดลง 14,995 ล้านบาท คิดเป็น 33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกับของปีที่ผ่านมา (ม.ค. – ก.ค. 61) จำนวน 45,610 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ธุรกิจที่ยังดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ก.ค. 62) จำนวน739,922 ราย มูลค่าทุน 16.85 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 184,293 ราย คิดเป็น 24.91% บริษัทจำกัด จำนวน 554,381 ราย คิดเป็น 74.92% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,248 ราย คิดเป็น 0.17% โดยปัจจัยที่มีผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้ง จากอัตราการเติบโตของ GDP และแนวโน้มด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจตามฤดูกาล (Seasonal Trend) ที่ขยายตัวสูงขึ้น รวมถึงมาตรการต่างๆของรัฐบาลมีผลต่อการแต่อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง ยังถือเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการจัดตั้งธุรกิจสำหรับไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปีนี้ได้
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการเติบโตของเมืองรองที่รัฐบาลส่งเสริมส่งผลให้ต่อการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ของผู้ประกอบการให้โอกาสเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากเห็นโอกาสในการทำธุรกิจ ทั้งนี้ กรมฯยังเชื่อว่าจากปัจจัยต่างๆจะมีผลทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจทั้งปีเติบโตอยู่ที่ 72,000-75,000 รายได้
