“จุรินทร์” เร่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 ฝ่าย กำหนดราคาประกันรายได้ ข้าว-ปาล์ม

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีในฤดูกาลผลิต 2562/63 วงเงิน 21,000 ล้านบาท และการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม งบ 13,000 ล้านบาท ว่าจากนี้ไปจะรีบดำเนินการจัดตั้งคณะอนุกรรมการทั้งปาล์มและข้าว โดยให้อธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธานคณะอนุกรรมการทั้งสองชุด โดยคณะอนุกรรมการจะประกอบด้วย 3 ฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเกษตรกร และภาคเอกชน โดยจะเร่งให้ประชุมคิดค่าส่วนต่าง โดยนำส่วนต่างประกันรายได้ 4 บาทเรื่องปาล์ม และประกันรายได้ 1 หมื่นบาท เรื่องข้าวเปลือกเจ้าเป็นตัวตั้ง และนำราคาตลาด ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่จะตกลงกันในคณะอนุกรรมการเป็นตัวลบ จะได้ส่วนต่างที่จะชดเชยส่งเข้าบัญชีเกษตรกร ทั้งชาวนา กับชาวสวนปาล์มที่ขึ้นทะเบียนกับการส่งเสริมการเกษตร โดยตรงผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สำหรับปาล์มพยายามให้ได้ 1 ต.ค. ส่วนข้าวจะเร่งให้เร็วที่สุด

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบการประกันรายได้ชาวสวนปาล์ม จะมีการประกันรายได้ชาวสวนปาล์มกิโลกรัมละ 4 บาท ณ ปริมาณน้ำมัน 18% ครัวละไม่เกิน 15 ไร่ ใช้วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาปาล์มในประเทศด้วย ถ้าราคาปาล์มสูงขึ้นเงินชดเชยส่วนต่างจะน้อยลง และขณะนี้ราคาผลปาล์มทยอยสูงขึ้นเป็นลำดับ วันนี้ราคารับซื้อเฉลี่ย ณ หน้าโรงงาน ขึ้นไปถึง 3.20-3.30 บาทโดยประมาณแล้ว

อย่างไรก็ตาม ต้องทำควบคู่มาตรการอื่น 6 มาตรการ 1.เร่งประกาศใช้น้ำมัน B10 เป็นภาคบังคับ ต่อไป B7 และ B20 จะเป็นแค่ทางเลือก จะช่วยให้มีการใช้สัดส่วนน้ำมันปาล์มไปผสมกับน้ำมันดีเซลมากกว่า B7 จะส่งผลให้ผลผลิตของปาล์มกับความต้องการใช้โดยรวมเข้าสู่ดุลยภาพ มีส่วนช่วยให้ราคาปาล์มดีขึ้นอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้นในอนาคต โดยได้หารือกับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงานจะทำให้น้ำมัน b10 เป็นภาคบังคับภายให้เร็วที่สุดก่อนสิ้นปี 2562

2.ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตใช้น้ำมันปาล์มใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยใช้ 2.3 แสนตัน 3.เร่งรัดการดำเนินการจัดการลักลอบการนำเข้าน้ำมันปาล์มผิดกฎหมาย 4.จะเร่งการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทศโดยเฉพาะอินเดียซึ่งมีความต้องการสูง 5.จัดให้มีมิตเตอร์วัดสต็อกถังน้ำมันปาล์มซึ่งมีอยู่หลายร้อยถังทั่วประเทศ เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์รู้แบบเรียลไทม์ได้ว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มมีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินนโยบายได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องถกเถียงกันแล้วอ้างว่าสต๊อกน้ำมันปาล์มเยอะจึงไม่รับซื้อผลปาล์มทำให้ราคาตก

6.ออกพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มต่อไป เป็นมาตรการที่จะทำคู่กับประกันรายได้ เพื่อทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มมีรายได้ตามสมควรและทำให้ราคาปาล์มในตลาดดีขึ้นต่อไป

นายจุรินทร์กล่าวว่า นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบประกันราคารายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด โดยใช้วงเงินใช้ทั้งหมด 1.2 หมื่นล้านบาท สำหรับฤดูกาลผลิตนี้ ส่วนการประกันรายได้ชาวสวนยางนั้น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้แจ้งให้ทราบว่าขั้นตอนการเตรียมการกำลังดำเนินการมาถึงจุดที่จะได้ข้อยุติทั้งหมด ภายในสัปดาห์หน้าจะได้รายละเอียดว่าการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางจะเป็นอย่างไร แต่หลักการเบื้องต้น จะประกันรายได้ยาง 3 ชนิด ยางแผ่นดิบชั้น 3 น้ำยางสด และยางก้อนถ้วย ส่วนรายได้ที่จะประกันแต่ละชนิดจะแตกต่างกันในข้อเท็จจริง โดยคิดจากปริมาณเนื้อยางแห้งเป็นตัวคำนวณ แต่จะใช้มาตรฐานกลางที่เป็นตัวคำนวณคือยางแผ่นดิบชั้น 3 โดยข้อสรุปจะนำเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ก่อนนำเข้าอนุมัติในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี