“สมคิด” หวังมหานครการบินเจิ้งโจวใช้เขตปลอดอากรนำเข้าสินค้าไทยขยายไปยุโรป

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในฐานะประธานปิดงาน พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ (MOU) ระหว่างคณะกรรมการบริหารเขตเศรษฐกิจพิเศษอากาศยานเจิ้งโจว (ZAEZ) และ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ. หรือ EEC) ว่า ไทยกับจีนมีความร่วมมือและเชื่อมโยงการค้ากันมานาน ซึ่งทางเจิ้งโจวมีเขตปลอดอากรนำเข้า ทำให้ไทยได้อานิสงค์จากส่วนนี้ในการส่งออก สินค้าไปยังจีนมากขึ้น เพื่อเชื่อมไปยังยุโรปได้อีก และในเดือน ต.ค. นี้ มีกำหนดเดินทางไปเยื่อนมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกง เซินเจิ้น และเซี่ยงไฮ้ เพื่อชักจูงนักลงทุน

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เลขาฯ EEC) กล่าวว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ จะเกิดความร่วมมือกัน 4 ด้าน คือ 1.การแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ ในการพัฒนามหานครการบิน 2.การเชื่อมโยงด้านการขนส่ง ที่ไทยจะเน้นการส่งออกไปที่จีน และจะสามารถเชื่อมต่อไปยังยุโรปได้ 3.ด้านการลงทุนอุตสาหกรรม ทั้งธุรกิจ E- Commerce ไอที ขนส่งโลจิสติกส์ กิจการซ่อมเครื่องบิน เป็นต้น 4.ความร่วมมือพัฒนาด้านทรัพยากร บุคลากร สถาบันการศึกษา

ซึ่งหลังจากนี้ ได้ตั้งทีมร่วมกันเพื่อใช้เวลา 3 เดือนในการกำหนดแผนงาน ซึ่ง มหานครการบินภาคตะวันออก (Eastern Aerotropolis) แห่งนี้ จะไม่ใช่เพียงพื้นที่ของสนามบิน แต่โดยรอบจะมีการสร้างเมือง พื้นที่อุตสาหกรรม และส่วนของโครงสร้างพื้นฐาน

ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก ในพื้นที่ 6,500 ไร่ของสนามบินอู่ตะเภา จะครอบคลุมพื้นที่รัศมี 30 กิโลเมตร ตั้งแต่พัทยา-ระยอง หรือราว 400 ตารางกิโลเมตร ให้เป็น มหานครการบินภาคตะวันออก (Eastern Aerotropolis) ซึ่งเป็นการนำประสบการณ์จากเจิ้งโจว ที่เป็นมหานครการบินในภาคกลางของจีน มาเป็นต้นแบบการศึกษา ที่ใช้เวลาพัฒนาเพียงเวลา 3 ปี โดยเฉพาะการกำหนดเขตสินค้าปลอดภาษีอากร ภายใต้รูปแบบ 1+1+7 ซึ่งจะกำหนดสินค้า 7 สินค้านำเข้า เช่น อาหาร ซีฟูด ปศุสัตว์ ผลไม้ ยา อุปกรณ์การแพทย์

“หากเขาเปิดนำเข้าสินค้าเหล่านี้ จะเป็นโอกาสให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าเหล่านี้ไปที่จีนได้มากขึ้น และยังเป็นโอกาสที่สินค้าเราจะสามารถส่งไปที่ยุโรปได้ต่อไปอีก”