นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่พิสูจน์คุณภาพกระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ซึ่งเป็น 1 ใน 6 สินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดนครราชสีมา ว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีการขึ้นทะเบียน GI มากที่สุดในประเทศ จากปัจจุบันที่มีการขึ้นทะเบียน GI กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว 6 รายการ คือ กาแฟดงมะไฟ และเส้นไหมไทยพื้นบ้านอีสาน เครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน ไวน์เขาใหญ่ ข้าวหอมมะลิทุ่งสัมฤทธิ์ และกาแฟวังน้ำเขียว
ทั้งนี้ ตามแผนจะผลักดันให้สินค้าอัตลักษณ์ท้องถิ่น เช่น ผ้าไหมปักธงชัย มะขามเทศเพชรโนนไทย ผ้าไหมคึมมะอุ ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI อีก3 รายการซึ่งหากทำได้ตามแผน ก็จะทำให้จังหวัดนครราชสีมามีสินค้า GI มากที่สุดในประเทศถึง 9 รายการได้
นอกจากนี้ ภาครัฐจะลงมาทำงานร่วมกับพื้นที่มากขึ้น เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนสินค้า GI ได้ทั้งระบบ โดยในระยะแรกจะเป็นการตั้งคณะกรรมการ GI ประจำจังหวัด ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลสินค้า GI โดยตรง ช่วยประสานงานเรื่องการจัดทำคำขอ จัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า จัดหาช่องทางการตลาด และผลักดันในด้านต่างๆ อย่างครบวงจร
ส่วนในด้านการทำตลาด จะผลักดันสินค้าออกสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยได้เดินหน้าผลักดันให้ชุมชนบ้านด่านเกวียนเป็นหมู่บ้านค้าขายออนไลน์ เหมือนเถาเป่าโมเดล ซึ่งจะทำให้สินค้ามีโอกาสขายได้เพิ่มขึ้น รวมถึงจะร่วมมือกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ช่วยผลักดันออกสู่ตลาดโลก และยังจะช่วยผลักดันให้แหล่งผลิตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัด ซึ่งจะช่วยให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้ตามนโยบายรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดจากการลงพื้นที่ดูความพร้อมในการเป็นชุมชนอีคอมเมิร์ซของชุมชนบ้านด่านเกวียน พบว่า ผู้ประกอบการในชุมชนเริ่มทำตลาดทางช่องทางออนไลน์แล้วผ่านสื่อโซเซียลมีเดียต่างๆ และผ่านตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อี มาร์เก็ตเพลส) โดยมีสินค้ที่ได้รับความนิยม เช่น เครื่องประดับดินเผา ต่างหู สร้อยคอ เข็มกลัด สินค้าตกแต่งบ้านแบบต่างๆ ขณะเดียวกัน มีแผนที่จะประสานขอความร่วมมือคิง เพาเวอร์ นำสินค้าไปจำหน่ายในสนามบิน เพื่อขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวด้วย