”ถาวร”เร่งระบบราง-มอเตอร์เวย์”เชื่อมชายแดนไทย-มาเลย์

เสร็จต.ค.นี้ ด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่”ถาวร”เร่งระบบราง-มอเตอร์เวย์เชื่อมชายแดนไทย-มาเลย์

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2562 เวลา 10.00 น. นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายเจือ ราชสีห์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมคณะฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ และจุดเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัมของมาเลเซีย ด่านศุลกากรแห่งใหม่ได้เริ่มการก่อสร้างตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2559 มีความก้าวหน้าการก่อสร้างคิดเป็น 97% เหลือการเก็บงานและความเรียบร้อยเล็กน้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.2562

ขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ตั้งคณะทำงานทางเทคนิคเพื่อพิจารณาจุดเชื่อมโยงการก่อสร้างถนนเส้นที่สองสำหรับเชื่อมด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่-ด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม เพื่อความสะดวกรวดเร็วและเกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ โดนคณะทำงานฝ่ายไทยประกอบด้วยกระทรวงการต่างประเทศ และ สมช.

จากนั้นนายถาวรได้เข้าร่วมประชุมการแก้ไขอุปสรรคทางการค้าระหว่างไทย-มาเลเซียและประเด็นเร่งด่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงคมนาคม รองรับการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา
ได้แก่ โครงสร้างพื้นฐาน จุดเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่กับมาเลเซีย การขนส่งสินค้าการส่งออกทางบก เป็นต้นโดยมี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุม หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมการประชุม มีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การให้เอกชนลงทุนสร้างคลังสินค้าและลานขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ฝั่งไทย

การพัฒนาการขนส่งระบบรางตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีไปถึงมาเลเซีย เร่งรัดการดำเนินโครงการก่อสร้างมอเตอร์เวย์หาดใหญ่-สะเดา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน PPP คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2563 ให้ กรมทางหลวง(ทล.) เร่งดำเนินการเรื่องการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เกี่ยวข้องกับโครงการเร่งด่วนต่างๆ โดยเร็วรวมถึง ผลกระทบทางเศรษฐกิจกับการออกมาตรการจำกัดเวลารถบรรทุกเข้าเขตเมืองชั้นในและแนวทางการนำระบบการขนถ่ายทางน้ำมาใช้เพื่อขนส่งสินค้าพร้อมรถขนส่งให้เคลื่อยย้ายได้พร้อมกันทางน้ำ

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ประสานความร่วมมือกับคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดน กระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเรื่องโควต้าจำนวนรถขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมืออาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าข้ามแดน เพื่อประโยชน์ของประเทศ